กรุงเทพฯ – 13 กันยายน 2566 : 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ นำโดย แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC), อีอีซี เอ็นจิเนียริ่ง เน็ทเวิร์ค และ บี.กริม เปิดตัว บริษัท ยูนิซัส กรีน เอ็นเนอร์จี จำกัด (Unisus Green Energy) ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและการวางระบบสาธารณูปโภคส่วนกลางสำหรับโครงการภาคเอกชนรายแรกในประเทศไทย นำเสนอ 2 โซลูชันล้ำสมัย ได้แก่ “ระบบผลิตความเย็นแบบรวมศูนย์ (District Cooling System)” และ “ระบบผลิตน้ำดื่มแบบรวมศูนย์ (District Drinking Water System)” ที่จะช่วยผู้พัฒนาโครงการลดค่าใช้จ่าย ลดการใช้พลังงาน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยและร่วมสร้างโลกที่น่าอยู่ขึ้น เป็นครั้งแรกในไทย ภายในงาน “Nova BUILD EXPO 2023” งานแสดงนวัตกรรมอาคารและสิ่งปลูกสร้างยุคใหม่ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 กันยายน  ณ บูท S08 Hall EH 103-104 ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา

เกชา ธีระโกเมน ประธานกรรมการ บริษัท ยูนิซัส กรีน เอ็นเนอร์จี จำกัด กล่าวว่า Unisus Green Energy ก่อตั้งขึ้นโดยมีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาและจัดการระบบสาธารณูปโภคของเมืองภายใต้แนวคิด นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (Sustainovation) ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยตระหนักถึงภาวะโลกร้อนซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนโลกที่น่าอยู่และยั่งยืนขึ้น  Unisus Green Energy  จึงพัฒนาระบบสาธารณูปโภคส่วนกลางทั้งการวางระบบปรับอากาศและระบบน้ำดื่มที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้แก่โครงการอสังหาริมทรัพย์ และอาคารมิกซ์ยูส ซึ่งมีผู้คนอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมาก โดยนำเสนอ 2 โซลูชันที่พร้อมออกแบบและวางระบบให้แก่ผู้พัฒนาโครงการภาคเอกชน ได้ ระบบผลิตความเย็นแบบรวมศูนย์ (District Cooling System) และระบบผลิตน้ำดื่มแบบรวมศูนย์ (District Drinking Water System)  ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับวงการอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย เพราะนอกจากจะช่วยลดการใช้ทรัพยากรของผู้อยู่อาศัยแล้ว ช่วยลดการใช้พลังงานโดยสิ้นเปลือง  ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และยังลดค่าใช้จ่ายของโครงการได้อย่างมหาศาล

ระบบผลิตความเย็นแบบรวมศูนย์ (District Cooling System) นวัตกรรมที่ใช้น้ำเย็นทำความเย็นภายในทุกอาคารของโครงการ โดยน้ำเย็นสำหรับระบบปรับอากาศนี้ จะผลิตจากชิลเลอร์ในอาคารสาธารณูปโภคส่วนกลาง (Central Utility Plant: CUP) และส่งผ่านท่อส่งน้ำไปยังอาคารต่าง ๆ เพื่อไปแลกเปลี่ยนพลังงานความเย็นที่สถานีแลกเปลี่ยนพลังงาน (Energy Transfer Station: ETS) ในอาคารเพื่อนำความเย็นไปใช้ปรับอากาศในแต่ละพื้นที่ และเมื่อน้ำมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น ก็จะไหลกลับไปยัง CUP เพื่อสร้างความเย็นอีกครั้ง

ระบบนี้ช่วยให้เครื่องปรับอากาศในแต่ละห้องของอาคารใช้สารทำความเย็นในปริมาณที่น้อยลงโดยเหลือเพียงแค่ที่ชิลเลอร์เท่านั้น อีกทั้งยังใช้สารทำความเย็น R1234ze ชนิดรักษ์โลกอีกด้วย ช่วยลดการใช้พลังงานกว่า 50% ทำให้ค่าใช้จ่ายถูกกว่าระบบปรับอากาศทั่วไป 5-7% หากรวมถึงค่าบำรุงรักษา สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ 15-20% ที่สำคัญช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 3 หมื่นตันต่อปี  ในกรณีที่ไฟดับกลางดึก ด้วยระบบผลิตความเย็นแบบรวมศูนย์ เครื่องปรับอากาศในทุกห้องจะดับ ลง แต่เครื่องปรับอากาศในห้องนอนยังทำงานอยู่ เพื่อจะได้ไม่รบกวนเวลาพักผ่อน นอกจากนี้ยังเพิ่มพื้นที่ใช้สอย ลดความร้อน และเสียงรบกวนบริเวณระเบียง เพราะการใช้ระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์ทำให้ไม่ต้องติดตั้งชุดคอยล์ร้อนที่บริเวณระเบียงอีกต่อไป โดยจะคิดค่าพลังงานความเย็นตามการใช้งานจริงผ่าน Smart Meter และผู้อยู่อาศัยสามารถตรวจสอบพลังงานความเย็นที่ใช้ไปแบบเรียลไทม์ได้ผ่านทางสมาร์ทโฟน

ส่วนระบบผลิตน้ำดื่มแบบรวมศูนย์ (District Drinking Water System – DDWS) ที่ Unisus Green Energy พัฒนาขึ้น เพื่อแก้ปัญหาน้ำประปาดื่มไม่ได้  ด้วยการวางระบบจัดการน้ำผ่าน 3 องค์ประกอบ ได้แก่ โรงผลิตน้ำดื่ม เครือข่ายท่อส่งน้ำดื่ม และก๊อกน้ำดื่มอัจฉริยะ (Smart Faucet) ที่แยกจากน้ำประปา โดยน้ำดื่มจะไหลผ่านท่อสเตนเลสมาตรฐาน Food Grade ซึ่งมีระบบ UV Sterilizer ติดตั้งอยู่เพื่อรักษาคุณภาพน้ำที่ไหลจากโรงผลิตน้ำดื่มมาถึงห้องพัก น้ำดื่มจะถูกผลิตด้วยเทคโนโลยีการกรองและฆ่าเชื้อโรคแบบหลายขั้นตอนตามมาตรฐาน NSF จากก๊อกน้ำภายในห้องส่วนตัวได้ทันที  และก๊อกน้ำอัจฉริยะจะมี UV Sterilizer เพื่อฆ่าเชื้อโรคอีกครั้ง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการสามารถดื่มน้ำที่สดใหม่ตลอดเวลา เนื่องจากไม่ได้ต้องขนส่ง และสะอาดมาตรฐานสากล เพราะไม่ถูกปนเปื้อนในระหว่างขนส่ง

ข้อดีของระบบผลิตน้ำดื่มแบบรวมศูนย์ คือ ความสดและสะอาดปลอดภัยที่เทียบเท่าน้ำดื่มบรรจุขวด แต่สะดวกสบายกว่าการซื้อน้ำหรือการติดตั้งเครื่องกรองน้ำส่วนตัว เพราะไม่ต้องคอยสั่งซื้อหรือบำรุงรักษาเครื่องและเปลี่ยนไส้กรอง และเช่นเดียวกับระบบผลิตความเย็นแบบรวมศูนย์ โดยระบบนี้จะมีการคิดค่าน้ำดื่มตามการใช้งานจริงจาก Smart Meter ซึ่งสามารถตรวจสอบปริมาณน้ำดื่มที่ใช้ไปแบบเรียลไทม์ผ่านสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ ยังช่วยลดขยะพลาสติกได้อย่างมหาศาลที่เกิดจากการซื้อขวดน้ำและเปลี่ยนไส้กรองอีกด้วย

“เมืองในอนาคตไม่ใช่ไฟฟ้าและน้ำประปา เราศึกษามาว่าอุปกรณ์สิ้นเปลืองพลังงาน คือ เครื่องปรับอากาศ ยิ่งติดเมืองยิ่งร้อน ขึ้น เพราะเป่าลมร้อนออกมา เมื่อเครื่องปรับอากาศมากขึ้น ก็จะใช้สารทำความเย็น เรียกว่า น้ำยาแอร์มากขึ้น ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้เกิดปัญหาภาวะเรือนกระจก เราจึงพัฒนาระบบผลิตความเย็นแบบรวมศูนย์ และระบบผลิตน้ำดื่มแบบรวมศูนย์ เพื่อแก้ปัญหาน้ำประปาดื่มไม่ได้  เรามั่นใจว่าทั้ง 2 ระบบจะส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีและสร้างความยั่งยืนให้แก่มนุษย์และสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม” เกชา กล่าว

ด้าน กมล ตันพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูนิซัส กรีน เอ็นเนอร์จี จำกัด กล่าวว่า Unisus Green Energy ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและการวางระบบสาธารณูปโภคส่วนกลางสำหรับโครงการภาคเอกชนรายแรกของเมืองไทย มอบบริการในแบบ One Stop Solution พร้อมออกแบบและพัฒนาระบบสาธารณูปโภคตั้งแต่ขั้นตอนวางแผน ดูแลงานก่อสร้างและบริการด้านวิศวกรรม การวางระบบเพื่อใช้งานจริง ไปจนถึงการบริการในระยะยาว ถือเป็นบริการครบวงจร เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรต่อโลกและร่วมสร้างสังคมที่ยั่งยืนไปพร้อม ๆ กับผู้พัฒนาโครงการ ปัจจุบัน เราทำงานร่วมกับเดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Forestias By MQDC) อภิมหาโปรเจ็กต์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย เพื่อติดตั้งระบบสาธารณูปโภคส่วนกลางสำหรับโครงการเอกชนครั้งแรกในไทย ทั้งระบบน้ำดื่มและระบบทำความเย็น โดยในปีนี้บริษัทฯ ได้นำทั้ง 2  ระบบมาใช้ในอาคารสำนักงาน และจะนำมาใช้ในโครงการวิสซ์ดอม เดอะฟอเรสเทียส์ คอนโดปลายปีนี้  นอกจากนี้ ยังได้วางระบบทำความเย็นแบบรวมศูนย์ให้แก่โครงการ Cloud 11ตรงข้าม True Digital Park   โครงการมิกซ์ยูสสุดยิ่งใหญ่บนถนนสุขุมวิทอีกด้วย

สำหรับแผนงานในปีหน้า Unisus Green Energy จะติดตั้งระบบทำความเย็นแบบรวมศูนย์ และระบบผลิตน้ำดื่มแบบรวมศูนย์ในเดอะ ฟอเรสเทียส์ให้แล้วเสร็จ รวมทั้งมอนิเตอร์ Charging Station และการใช้พลังงานทดแทนจากโซลาร์เซลล์  ส่วนแผนในระยะยาว 3-5 ปี จะวางระบบสาธารณูปโภคส่วนกลางในการจัดการของเสียและขยะ

“Unisus Green Energy เดินหน้าสร้างคุณค่าใหม่ ๆ ให้แก่การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ด้วยนวัตกรรมแห่งอนาคต พร้อมตั้งเป้าสู่การเป็นผู้นำด้าน District Utility System ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของเอเชีย เพื่อช่วยวงการอสังหาริมทรัพย์สร้างสรรค์ระบบสาธารณูปโภคที่ขับเคลื่อนการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นลบ (Carbon Negative) ได้อย่างเป็นรูปธรรม” กมล กล่าว

ร่วมสัมผัสแบบจำลองอาคารสาธารณูปโภคส่วนกลาง (Central Utility Plant) แบบจำลองก๊อกน้ำอัจฉริยะ (Smart Faucet) และแบบจำลองเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ของ Unisus Green Energy ที่จัดแสดงเป็นครั้งแรกในงาน Nova BUILD EXPO 2023 วันที่ 13-15 กันยายน ศกนี้ ณ บูท S08 Hall EH 103-104 ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา