1xbet casino download

กนอ. ปลื้ม 34 นิคมฯ ยกระดับสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ตั้งเป้า 5 ปี มีนิคมฯ ผ่านเกณฑ์เพิ่มอีก 5 แห่งทั่วประเทศ


การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เผยผลการตรวจประเมินการเป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศในระดับต่างๆ พร้อมจัดพิธีมอบรางวัลให้กับ ผู้ผ่านเกณฑ์ภายในงานสัมมนาวิชาการประจำปี 2563 “Eco Innovation Forum 2020” ทุกนิคมฯ มีส่วนร่วมพัฒนาเมืองฯ ผ่าน 5 มิติ 22 ด้าน สอดรับ ทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจแนวใหม่ที่เน้นใช้ทรัพยากรน้อยแต่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่า ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนรอบข้าง กางแผนภายใน 5 ปีต้องมีนิคมอุตสาหกรรมที่ผ่านเกณฑ์การชี้วัดการเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศเพิ่มขึ้น 5 แห่งทั่วประเทศ

สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า กนอ. ได้กำหนด มาตรฐานและเกณฑ์ตัวชี้วัดการเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศใน 5 มิติ 22 ด้าน ด้วยการสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมปรับตัวและใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพ สูงสุด โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในสถานประกอบการ เช่น การนำน้ำเสียที่โรงงานอุตสาหกรรมปล่อยทิ้งมาบำบัดแล้วนำมาผลิตน้ำ RO (Reverse Osmosis) และนำกลับมาใช้ใหม่แทนน้ำประปา ซึ่งเป็นการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการ การนำเศษ วัสดุเหลือใช้จากการประกอบกิจการโรงงานไปเพิ่มมูลค่า ด้วยการนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบอื่น เช่น นำเศษขยะทั่วไปในนิคมอุตสาหกรรมไปแปลงเป็นเชื้อเพลิงในเตาเผาปูนซีเมนต์ หรือนำตะกอนจากโรงงานไปทำปุ๋ยหมักชีวภาพให้กับเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงได้ใช้ประโยชน์ รวมทั้งส่งเสริมการสร้างอาชีพจากวัสดุเหลือใช้จากการประกอบกิจการมาดัดแปลงให้เป็นสินค้าที่มีมูลค่าสร้างรายได้ให้กับชุมชน และส่งเสริมกลุ่มอาชีพวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ให้มีการประกอบกิจการที่มีผลกำไร โดยที่ผ่านมาวิสาหกิจชุมชนสามารถทำรายได้เป็นเงินหมุนเวียน ให้กับสมาชิกในกลุ่มได้อย่างเป็นรูปธรรม

แนวทางการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เน้นการสร้างความสมดุลระหว่างปัจจัย ด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยการมีส่วนร่วม ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โรงงานอุตสาหกรรมและชุมชนท้องถิ่น โดย กนอ. ได้กำหนดคุณลักษณะ มาตรฐานและเกณฑ์ตัวชี้วัดการเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศไว้ใน 5 มิติ 22 ด้าน โดยแบ่งการยกระดับความเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศมีใน 3 ระดับ ประกอบด้วย ระดับ Eco-World Class/Eco-Excellence และ Eco-Champion ตามลำดับ ซึ่งหากนิคมฯ ที่ผ่านเกณฑ์และยกระดับเป็น Eco-World Class แล้ว ต้องรักษาระดับการเป็น Eco-Excellence และ Eco-Champion อย่างต่อเนื่อง ด้วยการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลและการมี ส่วนร่วม โดย กนอ. มีแผนแม่บทที่ใช้เป็นแผนปฏิบัติการแนวทางการเป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศในทุกระดับ โดยตั้งเป้าภายใน 5 ปี (พ.ศ. 2564-พ.ศ. 2568) จะต้องมีโรงงานอุตสาหกรรมที่ผ่านการตรวจประเมินการเป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศเพิ่มขึ้นอีก 5 แห่งทั่วประเทศ” ผู้ว่า กนอ. กล่าว

1xbet casino downloadLiên kết đăng nhập

สำหรับปีนี้ มีนิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับการรับรองเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศระดับ Eco-Champion จำนวน 34 แห่ง และใน 34 แห่ง ได้ยกระดับสู่การเป็น Eco-Excellence จำนวน 13 แห่ง และใน Eco-Excellence ได้ยกระดับสู่การเป็น Eco-World Class จำนวน 3 แห่ง นอกจากนี้ยังมีนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศได้รับการพัฒนาต่อยอดสู่การเป็นนิคม/ท่าเรืออุตสาหกรรมเชิงนิเวศ 4.0 จำนวน 3 แห่ง โรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ 4.0 จำนวน 5 แห่ง โรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco-Factory) จำนวน 29 แห่ง และโรงงานที่สนับสนุน การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ 35 แห่ง พร้อมกันนี้ได้มีการมอบประกาศนียบัตรให้กับ โรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับการรับรอง Water Footprint อีก 7 แห่ง

ด้าน สุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุค Digital Transformation ไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยี ดิจิทัลเข้ามาใช้ในการทำธุรกรรมต่างๆ ทั้งการทำงาน การผลิต การซื้อขายแลกเปลี่ยน และ การดำเนินทุกกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยภาครัฐต้องให้การสนับสนุนภาคการผลิตและธุรกิจ ที่เร่งปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะธุรกิจในอนาคตที่จะมีบทบาทมากขึ้น คือ ไอทีและดิจิทัล การค้าขายที่จะเปลี่ยนรูปแบบเป็นออนไลน์ E-Commerce มากขึ้น ธุรกิจการเงินที่จะก้าวสู่สังคมไร้เงินสดมากขึ้น เนื่องจากสังคมไทยจะก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งสถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถอยู่ร่วมกับชุมชน สังคมอย่างยั่งยืน โดยได้นำแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ การพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy พร้อมส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการให้ดำเนินธุรกิจด้วยธรรมาภิบาล มีความ รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และมีความรู้ด้านการบริหารจัดการน้ำและสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรมแบบ Smart System เช่น การนำระบบ Internet of Things (IoT) มาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้


Source: นิตยสาร Green Network ฉบับที่ 101 กันยายน ตุลาคม 2563 คอลัมน์ Environment โดย กองบรรณาธิการ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active
    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์
    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
Save
m88 cá cược thể thao trực tuyến cá cược thể thao online cá cược thể thao trực tuyến trang cá độ bóng đá trực tuyến f88 cá độ