Green People | Green Network

Green Network — Tue, 14 Jan 2020 06:45:44 +0000

ดร.วิจารย�?สิมาฉายา ผอ.สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ผู้นำต้นแบบยึดหลักพรหมวิหา�?4 ผู้ขับเคลื่อนการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม

หากจะกล่าวถึงบุคคลผู้มีหัวใจรักษ์สิ่งแวดล้อม มีจิตใจรักษาโลกใบนี้ให้น่าอยู่ กอร์ปกับความมีเจตนารมณ์ในการพัฒนาผลักดันองค์กรให้เกิดการประสานการทำงานร่วมกันระหว่างภาคีต่าง �?ในสังค�?ซึ่งประกอบด้วยภาครัฐ เอกชน ประชาช�?องค์กรพัฒนาเอกชน สื่อมวลช�?ตลอดจนสถาบันทางวิชาการอื่น �?เพื่อเชื่อมโยงสู่การอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เกิดความสมดุลอันจะเป็นรากฐานสำคัญสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งในระดับประเทศและระดับโล�?บุคคลท่านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งผู้ที่ได้ร่วมขับเคลื่อนการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมมาตลอดการทำงาน นั่นคื�?ดร.วิจารย�?สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไท�?/strong>

ดร.วิจารย�?สิมาฉายา ผู้คร่ำวอดทางด้านบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและมลพิษ ร่วมผลักดันกฎหมายและกิจกรรมที่เกี่ยวกับการจัดการด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อ�?จนเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งอดีตเคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อดีตอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไท�?ที่เป็นองค์กรกลางและคลังสมองของประเทศด้านสิ่งแวดล้อ�?โดยมีวาระการดำรงตำแหน่�?4 ปี พร้อมกับการการปฏิบัติหน้าที่ขับเคลื่อนองค์กรสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ซึ่งถือเป็นองค์กรชั้นนำด้านสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากลที่ยึดมั่นในความเป็นกลางบนพื้นฐานทางวิชาการ เพื่อร่วมสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญ ข้อมูลทางวิชาการ และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อ�?รวมทั้งสนับสนุนรัฐขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและเป้าหมายของโลกในการพัฒนาที่ยั่งยื�?เพื่อให้การพัฒนาและบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมของประเทศเกิดชึ้นอย่างสมดุลและได้มาตรฐาน เพื่อนำนโยบายสู่การปฏิบัติให้เกิดผลในระดับพื้นที�?การรณรงค�?เผยแพร่และประชาสัมพันธ์องค์ความรู�?สร้างความร่วมมือกับองค์กรหลักด้านสิ่งแวดล้อมและพัฒนาเครือข่ายระดับต่า�?�?ในการเสริมสร้างศักยภาพเพื่อจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมต่อสังคมอย่างยั่งยืน ซึ่งแนวนโยบายจากการบริหารองค์กรที่นำโด�?ดร.วิจารย�?ในฐานะผู้บริหารองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ ประสบการณ์ ความเป็นนักวิชากา�?และหลักการบริหารงานที่ได้ยึดมั่นความถูกต้องตามหลักวิชากา�?คุณงามความดีและซื่อสัตย์ และจะสามารถนำพาองค์กรก้าวหน้าไปตามเป้าหมายที่วางไว้

ดร. วิจารย�?/strong> เป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณแห่งความเป็นนักวิชาการและนักบริหารสิ่งแวดล้อมในเชิงบูรณากา�?สร้างเครือข่ายการจัดการสิ่งแวดล้อมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ก่อให้เกิดการแก้ไขปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมที่เป็นรูปธรรมจนเป็นที่ประจักษ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นผู้นำทางองค์กรสู่ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยื�?ด้วยการอุทิศตนอย่างมุ่งมั่นและทุ่มเทในการจัดการสิ่งแวดล้อ�?และถ่ายทอดความรู้สู่การศึกษาเพื่อการพัฒนาที่เป็นต้นแบบของข้าราชกา�?ทั้งการวางตั�?การถ่ายทอดความรู�?การสร้างเครือข่าย และการประกอบสัมมาชีพ เป็นที่ประทับใจของเพื่อนร่วมงานทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบั�?จนได้รับรางวัลเกียรติคุณและประกาศเกียรติคุณด้านคุณงามความดีจากหน่วยงานต่าง �?มากกว่�?10 รางวัล ตั้งแต่ปีพ.�? 2545 อาทิ รางวัล “ข้าราชการพลเรือนดีเด่น�?จากสำนักงานข้าราชการพลเรือน รางวัล “คนดีศรี คพ.�?จากกรมควบคุมมลพิ�?รวมไปถึงได้รับการยกย่องให้เป็�?“ศิษย์เก่าเกียรติยศ 100 ปี โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย�?รางวัล “ศิษย์เก่าดีเด่น�?จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล�?มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ “รางวัลเกียรติยศ ผู้ทำประโยชน�?ในวาระ 80 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์�?นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล “คนดีศรีสะเกษ�?จากเจ้าคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษ รางวัลที่ยืนยันถึงคุณความความดีและความซื่อสัตย์สุจริ�?คื�?รางวัล “ผู้ประพฤติปฏิบัติตนชอบด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ประจำป�?2558�?จากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาต�?และรับรางวัลเกียรติยศโล่ห์และใบประกาศเกียรติคุ�?“คนดีศรีอีสาน�?ในปี 2558 และรางวั�?“หนี่งในอีสา�?ด้านส่งเสริมคุณธรรม�?จากประธานเครือข่ายความดีงามภาคอีสา�?ในปี 2560

ดร.วิจารย�?/strong> เกิดเมื่อวันที่ 10 ธันวาค�?2501 ที่บ้านด่า�?ตำบลด่าน อำเภอราษีไศ�?จังหวัดศรีสะเกษ บิดารับราชการครูประชาบาล มารดาประกอบอาชีพค้าขาย สำเร็จปริญญาตรีวิทยาศาสตร์บัณฑิ�?จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล�?นิติศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโทวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และประกาศนียบัตรชั้นสู�?สาขาวิศวกรรมสุขาภิบา�?จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นเข้ารับราชการที่สำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในปี 2528 และต่อมาได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลประเทศแคนาดาจนสำเร็จปริญญาเอก สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อ�?ที�?University of Guelph ประเทศแคนาดา ในปี 2541 นอกจากนี�?ดร.วิจารย�?ยังได้รับการยกย่องและการยอมรับทางด้านวิชาการและการจัดการสิ่งแวดล้อ�?โดยจะเห็นได้จากการที่สภามหาวิทยาลัยต่า�?�?ได้มอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ต่า�?�?มากมาย ประกอบด้วย วิทยาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ จากวิทยาลัยเซาท์อีสบางกอ�?ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ�?สาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม จากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ�?(สิ่งแวดล้อมศึกษา) จากมหาวิทยาลัยมหาสารคา�?ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ�?(วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ�?(การจัดสิ่งแวดล้อ�? จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหาศาสตร์(นิด้�? ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ�?(วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ตามลำดับ

ทั้งนี�?กองบรรณาธิการนิตยสาร Green Network ได้รับเกียรติจา�?ดร.วิจารย�?/strong> ให้สัมภาษณ์พิเศษในเรื่องแนวนโยบายการดำเนินงานองค์กร รวมถึงแนวคิดในการบริหารงานด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยจะขับเคลื่อนไปอย่างไรบ้า�?โด�?ดร.วิจารย�?/strong> กล่าวว่า ในปีใหม่เข้าสู่ �?�? 2563 สถานการณ์มลภาวะและสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยยังคงมีความน่าเป็นห่วงโดยเฉพาะภาวะแห้งแล้งที่จะเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อ�?ซึ่งค่�?strong>ฝุ่นละออ�?PM2.5 จะยังคงส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพคนไทยและส่งผลต่อปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในเขตเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น ปล่อยไอเสียจากรถยนต์ประกอบกับสภาวะอากาศปิด ที่��ะก่อให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศสูงขึ้น และสถานการณ์ปัญหาขยะพลาสติกส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง ซึ่งล้วนเกิดจากมนุษย์ที่ไม่มีจิตสำนึกในการร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อมให้ก��บโลกใบนี้ จึงนำมาซึ่งแนวนโยบายการขับเคลื่อนการงดและเลิกให้ถุงพลาสติกในห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็�?และร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่วันที�?1 มกราคม 2563 ที่ผ่านมาตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนดเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการดำเนินงานเพื่อลดและเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว หรือ Single-Use Plastic ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้ Roadmap การจัดการขยะพลาสติ�?�?�? 2561-2573

�?strong>สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ก็เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้รับมอบหมายให้ร่วมบูรณาการดำเนินงาน โดยนโยบายในป�?2563 นี�?สถาบัน�?จะเป็นตัวกลางความร่วมมือกับภาครัฐ ภาคเอกชนในการรณรงค์และประชาสัมพันธ์การสร้างการรับรู้ และความเข้าใจปัญหาสิ่งแวดล้อมและภาวะมลพิษที่เกิดขึ้�?ซึ่งคงต้องเน้นมาตรการแก้ไขเรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ มาตรการด้านการขนส่งที่มีประสิทธิภา�?การรณรงค์ให้ประชาชนใช้รถสาธารณะมากขึ้น การรณรงค์ลดการใช้พลาสติกทุกรูปแบบด้วยการรีไซเคิ่ลให้เป็นกระบวนการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน รวมถึงจัดทำโครงการวิจัยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อ�?และมาตรการความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาเพื่อสร้างจิตสำนึกให้สังคมไทยได้ตระหนักถึงปัญหาภาวะโลกร้อนและปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของคนในชุมช�?โดยจัดกิจกรรมให้เยาวชนทุกระดับร่วมกันรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ในโรงเรียน ชุมช�?และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาชุมชนของตนให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมได้อย่างถูกต้อง�?/p>
สำหรับผลการทำงานที่โดดเด่นของ ดร.วิจารย�?/strong> ที่ผ่านม�?เป็นผู้ริเริ่มดำเนินการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างบูรณาการ ประกอบด้วย การจัดการมลพิษทางน้ำ ด้านการจัดการมลพิษทางอากาศ การจัดการขยะและของเสี�?การจัดการสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ และการสร้างการมีส่วนร่วมด้านงานสิ่งแวดล้อม การจัดการคุณภาพน้ำในระบบพื้นที่ลุ่มน้ำร่วมกับชุมชนและหน่วยงานในพื้นที่ใน “โครงการพันธมิตรลุ่มน้ำท่าจีน�?นับเป็นต้นแบบให้ขยายผลไปในพื้นที่อื่�?�?ทำให้ได้รับรางวัลระดับดีเยี่ยมการบริหารราชการแบบมีส่วนร่ว�?2 ปีซ้อน (ปี 2556 และป�?2557) จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (�?�?�?) ส่วนผลงานดีเด่นด้านการจัดการมลพิษทางอากา�?คื�?การแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ โดยเน้นการเสริมสร้างบทบาทชุมชนในการแก้ไขปัญหาผ่านการดำเนินการโครงกา�?“ชุมชนมาตรฐา�?หมู่บ้านปลอดการเผา การพัฒนาแอพพลิเคชั่�?“Air4Thai�?เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลคุณภาพอากา�?และหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้ ขณะเดียวกั�?ยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนแผนโรดแม๊ปอาเซียนปลอดหมอกควัน “ASEAN Transboundary Haze-Free Roadmap�?เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้อาเซียนปลอดจากหมอกควันภายในปี �?�? 2563 ซึ่งได้รับการยอมรับจากประเทศภาคีอาเซียน ขณะที่ผลงานด้านการจัดการขยะและของเสี�?ได้ขับเคลื่อนผ่านแผนแม่บทบริหารจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย จนสามารถแก้ไขปัญหาการตกค้างของขยะสะส�?การสร้างรูปแบบการบริหารจัดกา�?การนำขยะไปผลิตพลังงา�?การสร้างการรับรู้เพื่อลดขยะที่ต้นทาง เป็นต้น และได้เป็นผู้แทนประเทศไทยและระดับภูมิภาค ในการเข้าร่วมประชุมระดับนานาชาติด้านสิ่งแวดล้อ�?ได้แก่ การได้รับเลือกเป็นผู้แทนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคในการเข้าไปร่วมเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในการจัดทำรายงานสถานการณ์สิ่งแวดล้อมโล�?ฉบับที�?6 (Global Environment OutlooK 6) ขององค์การสหประชาชาต�?โปรแกรมสิ่งแวดล้อม (UNEP) อีกด้ว�?/p>
“แนวคิดในการบริหารองค์กร ผมมีแนวคิดในการบริหารโดยเน้นการมีส่วนร่วม และหุ้นส่วนการทำงานกับภาคส่วนต่า�?�?ทั้งภาครัฐ ผู้ประกอบการ องค์กรพัฒนาเอกชน และประชาชนทั่วไป บนพื้นฐานความรู้ ข้อเท็จจริงที่เป็นวิทยาศาสตร์ เสนอแนะการขับเคลื่อนนโยบายในทิศทางที่ถูกต้อง สร้างสังคมและชุมชนให้เข้มแข็�?ร่วมมือทางวิชาการกับองค์การและสถาบันทั้งในและระหว่างประเทศ และทำงานอย่างโปร่งใส ในส่วนพนักงานของสถาบัน ก็มุ่งพัฒนาศักยภาพ ให้มีความสุขกับงาน และมีความสมดุลของงานรับผิดชอบกับชีวิตส่วนตัวและครอบครัวด้วย�?ดร.วิจารย�?/strong> กล่า�?/p>
อย่างไรก็ด�?จากประสบการณ์ที่สะสมมาขอ�?ดร.วิจารย�?สิมาฉายา ได้ถูกถ่ายทอดไปสู่ส่วนต่าง ๆให้มีการขับเคลื่อนทางนโยบา�?ผ่านการทำงานด้านการบริการวิชาการ ที่ปรึกษางานวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมในระดับต่า�?�?แผนแม่บทและยุทธศาสตร์การจัดการสิ่งแวดล้อ�?ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อ�?ควบคู่ไปกับการพัฒนาประเทศ และด้วยการยึดหลักแนวคิดของความเป็นนักบริหารงานที่ได้ทุ่มเทด้วยใจรัก และเป็นผู้นำที่ทำงานอย่างโปร่งใส ยึดหลักพรหมวิหาร 4 คื�?ความเมตตา กรุณ�?มุทิตา และอุเบกขา ยึดมั่นในคุณงามความดีแล้วนำมาบริหารองค์กรอย่างเสมอต้นเสมอปลา�?จึงเป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณะชนได้รับการยอมรับทั้งหน่วยงานภายในและองค์กรระหว่างประเทศว่าเป็นผู้นำต้นแบบ และเป็นนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมที่มุ่งประโยชน์ส่วนรวมอย่างแท้จริง

Source: กองบรรณาธิกา�?/p>The post ดร.วิจารย�?สิมาฉายา ผอ.สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย�?/a> first appeared on Green Network.

Green People | Green Network

Green Network — Fri, 13 Dec 2019 03:38:49 +0000

Dr.-Ing. Robert Himmler หัวเรือใหญ�?German Engineering for Sustainable Building ทีมออกแบบอาคารประหยัดพลังงานในประเทศไท�?/h2>
หากจะเอ่ยถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อ�?ชื่อขอ�?Dr.-Ing. Robert Himmler ชาวเยอรมัน เป็นสถาปนิกและนักวางผังเมืองในประเทศเศรษฐกิจใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต�?ที่รวมถึงประเทศไทยด้ว�?ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบอาคารประหยัดพลังงานในประเทศไทยได้ทำให้เกิดเป็นแบบอย่างสำหรับสถาปนิกและนักออกแบบไทยรุ่นใหม่และทั่วโล�?เพื่อให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาโลกร้อนและสิ่งแวดล้อ�?/strong>

ดร.โรเบิร์�?ฮิมม์เลอร์ (Dr.-Ing. Robert Himmler) นักพัฒนาด้านการออกแบบอาคารประหยัดพลังงานทั่วโล�?เป็นกรรมการผู้จัดกา�?German Engineering for Sustainable Building หรือ EGS-plan (Bangkok) Co., Ltd. สาขาประเทศไท�?/strong> ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการออกแบบและอนุรักษ์พลังงานและอาคารยั่งยืน ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศเยอรมนี พร้อมกับวางกรอบนโยบายสร้างจิตสำนึกให้กับพนักงานทุกคนให้คำนึงถึงการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมเป็นหัวใจสำคั�?นอกจากนี�?ดร.โรเบิร์�?/strong> ยังเป็นอาจารย์พิเศษด้านอาคารอนุรักษ์พลังงาน ที่บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี อีกด้ว�?/p>
ทั้งนี�?กองบรรณาธิการนิตยสาร Green Network ได้รับเกียรติให้สัมภาษณ์พิเศษเกี่ยวกับมุมมองและแนวคิดการออกแบบอาคารประหยัดพลังงานในประเทศไทยหลายแห่�?โด�?ดร.โรเบิร์�?/strong> กล่าวว่า �?strong>German Engineering for Sustainable Building เรามีทีมสถาปนิก นักออกแบ�?นักวางแผ�?นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีความรู้และประสบการณ์ โดยฉพาะความเชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี สำหรับแนวคิดในการออกแบบอาคารประหยัดพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไท�?เราก็ได้ศึกษาสภาพอากาศสภาพแวดล้อมในประเทศไท�?ซึ่งการออกแบบอาคารประหยัดพลังงานนี�?ได้ยึดหลักการก่อสร้างอาคารประหยัดพลังงานตามมาตรฐานอาคารของสภาอาคารยั่งยืนของเยอรมัน หรือ German Sustainable Building Council (DGNB) ได้แก่ 1. ด้านสภาพแวดล้อ�?/strong> 2. ด้านประหยัดพลังงาน แล�?3. ด้านการอยู่อาศัยของผู้ใช้อาคาร เป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ซึ่งมุ่งการออกแบบให้ผู้คนอาศัยอยู่ร่วมกันได้กับอาคารอย่างยั่งยืน และเพื่อสร้างความตระหนักให้เกิดขึ้นกับสาธารณชนหรือผู้คนให้มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ช่วยกันรักษาโลกร่วมกัน รักษาสิ่งแวดล้อม และร่วมมือกันอนุรักษ์พลังงาน มันเหมือนเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของเราที่จะต้องรับใช้สังคมส่วนรวมให้มีสุขภาพที่ดี�?/p>

สำหรับ อาคารธนพิพัฒน์ อาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อ�?/strong> เป็นอีกหนึ่งผลงานขอ�?strong>บริษัท German Engineering for Sustainable Building โดยม�?ดร.โรเบิร์�?/strong> เป็นผู้นำทีมสถาปนิกและนักออกแบบ ซึ่งมีหัวใจอนุรักษ์พลังงานและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ตั้งแต่แนวคิดโครงสร้างอาคารภายนอกและการออกแบบภายในอาคารได้เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อ�?ซึ่งช่วยทำให้อาคารมีอัตราการใช้พลังงานลดลงได้มากถึ�?1-2 เท่าของวัสดุทั่วไ�?ขณะเดียวกันยังได้นำนวัตกรรมโซลาร์เซลล์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดเข้ามาติดตั้งในอาคารอีกด้วย ส่วนโครงสร้างอาคารภายนอกนั้น บริษัท�?ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการก่อสร้างอาคาร ที่สามา��ถควบคุมการก่อสร้างไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกอาคารได้

นอกจากอาคารธนพิพัฒน์แล้ว ดร.โรเบิร์�?/strong> ยังได้ออกแบบโครงการบ้านพักอาศั�?พฤกษ�?พลัส เฮ้าส�?/strong> เป็�?strong>บ้านประหยัดพลังงานที่มีการออกแบบระบบทำความเย็นและระบบทำน้ำอุ่นที่มาจากพลังงานจากแสงอาทิตย�?รวมทั้งทำระบบเก็บน้ำฝนไว้ใต้ดินที่มีประสิทธิภาพเพื่อใช้รดน้ำต้นไม้ นอกจากนี้ยังออกแบบหน้าต่างที่ช่วยลดอุณหภูม�?และได้รับแสงธรรมชาติจากภายนอ�?อีกทั้งใช้สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำทั้งหลัง ตลอดจนเลือกใช้วัสดุและผลิตภัณฑ์ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุ�?และสามารถตอบสนองความต้องการการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม�?โดยมองเทรนด์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในอนาค�?ซึ่งเป็นเทรนด์ของผู้อยู่อาศัยที่ต้องการบ้านที่มีคุณสมบัติประหยัดพลังงาน แข็งแรงปลอดภัย ทันสมั�?ใส่ใจสุขภา�?ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานอาคารของ DGNB

“เราได้ศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไท�?จึงนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการออกแบบโครงสร้างภายนอ�?เพื่อป้องกันสภาพแวดล้อมในพื้นที่และบริเวณด้านนอกใกล้เคียง อีกทั้งเรามีทีมสถาปนิกและทีมนักออกแบบได้เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ทำให้ประหยัดพลังงา�?ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการคุ้มทุนและผู้อยู่อาศัยหรือผู้เช่าประหยัดค่าใช้จ่ายไปพร้อมๆ กันด้ว�?แต่อย่างไรก็ตา�?ขอแนะนำผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของโครงการอาคารประหยัดพลังงานต่าง�?แม้จะเป็นอาคารหรือบ้านประหยัดพลังงาน ไม่ควรตั้งราคาขายหรือให้เช่าสูงเกินไ�?เพราะจะทำให้ไม่มีคนมาเช่าอาคารได้�?ดร.โรเบิร์�?กล่าวทิ้งท้า�?/p>
ทั้งนี�?German Engineering for Sustainable Building ซึ่งนำโดยหัวเรือใหญ่อย่าง ดร.โรเบิร์�?ฮิมม์เลอร์ ได้เล็งเห็นความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศไท�?และได้มุ่งพัฒนาเดินหน้าออกแบบอาคารประหยัดพลังงานเพิ่มอีกหลายโครงการ อาทิ กลุ่มอาคารโรงงานอุตสาหกรรม อาคารพาณิชย์ทั่วไป รวมถึงอาคารสำนักงานขนาดเล็�?และอาคารที่อยู่อาศัย ขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้างแล้�?2 แห่ง ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานจา�?DGNB องค์กรที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของแนวคิดความยั่งยืนแบบองค์รวมโดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อ�?ผู้ค�?และการใช้ชีวิตเชิงพาณิชย์อย่างเท่าเทียมกันในทั่วโลก

Source: นิตยสา�?Green Network ฉบับที�?96 พฤศจิกาย�?ธันวาค�?2562 คอลัมน�?GREEN People โด�?กองบรรณาธิกา�?/p>The post Dr.-Ing. Robert Himmler หัวเรือใหญ�?German Engineering for Sustainable Building�?/a> first appeared on Green Network.

Green People | Green Network

Green Network — Fri, 13 Dec 2019 03:12:35 +0000

คณะกรรมการสถาบันอาคารเขียวไท�?รวมตัวกันก่อตั้งสถาบันขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการพัฒนาองค์ความรู้และจัดทำมาตรฐาน หลักเกณฑ์อาคารเขียวของไทยขึ้นมาใช้เอง เพื่อนำมาใช้แทนเกณฑ์อาคารเขียวที่กำหนดมาจากประเทศมหาอำนาจ ลดความเสียเปรียบด้านการค้าและเศรษฐกิจของประเทศ จึงเกิดการรวมตัวของกลุ่มอาสาสมัครที่ประกอบด้วยสถาปนิกและวิศวกรจากสมาคมวิชาชี�?2 แห่งคื�?สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไท�?ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อ �?�? 2551 ร่วมกันจัดตั้งหน่วยงานด้านอาคารเขียวของไทยขึ้น เพื่อต้องการสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนและสังคมไทยเรื่องการออกแบบก่อสร้าง และพัฒนาอาคารเขียวแบบยั่งยืน ส่งเสริมให้เกิดความรู้ความเข้าใจเรื่องอาคารเขียวที่ถูกต้องให้กับ สถาปนิ�?วิศวกร หน่วยงานรัฐบาล และประชาชนทั่วไป

หลังจากนั้นคณะทำงานได้จัดตั้�?�?strong>สถาบันอาคารเขียวไท�?/strong>�?ขึ้นในวันที่ 11 มีนาคม �?�? 2552 ตัวแทนจากสมาคมสถาปนิกสยามฯ และวิศวกรรมสถานฯ ได้ลงนามในข้อตกลงที่จะทำงานร่วมกันทำงานในเป้าหมายดังกล่า�?และเริ่มจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในรูปของ “มูลนิธิอาคารเขียวไทย�?เมื่อวันที่ 7 กันยาย�?�?�? 2553 เป็นองค์กรการบริหารงานในรูปแบบขององค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ต่อมาคณะกรรมการมูลนิธิ�?จึงมีมติให้ตั้งหน่วยงานชื่�?�?strong>สถาบันการอาคารเขียว�?ทำงานภายใต้มูลนิธิ�?โดยเป็นหน่วยงานอิสระไม่แสวงหากำไ�?แต่สามารถหารายได้เลี้ยงตัวเองได้จากการประเมินอาคารและจัดอบรม สัมมนาและกิจกรรมอื่น�?ของสถาบันฯ นั่นเอง และปัจจุบันมีชื่อว่า “สถาบันอาคารเขียวไทย�?/p>
สำหรับคณะกรรมการสถาบันอาคารเขียวไทยนั้�?จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญงานด้านออกแบบอาคารอย่างยั่งยืนเพื่อประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ ประกอบไปด้วย ประธานฝ่ายต่าง�?รวมทั้งคณะกรรมกา�?และที่ปรึกษาสถาบัน�?ซึ่งหนึ่งในคณะทำงานสถาบันอาคารเขียวไทยนั้�?ถือเป็นบุคคลที่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศจากผลงานการตรวจสอบและประเมินอาคารเขียวไทยจำนวนหลายโครงกา�?นั่นคื�?ดร.ปรีช�?มณีสถิตย�?/strong> ที่ปรึกษาสถาบันอาคารเขียวไทยเป็นผู้เชี่ยวชาญอาคารเขียว จบปริญญาโท (Msc.) Computer Aided Environmental Building Design, University of Sheffield ประเทศอังกฤษ และจบปริญญาเอก (Ph.D.) Building Energy Simulation for an Architect, University of Sheffield ประเทศอังกฤษ โดยในระหว่าง �?�? 2555-2559 เป็นคณะกรรมการสถาบันอาคารเขียวไท�?แล�?�?�? 2560 เป็นที่ปรึกษาสถาบันอาคารเขียวไทยจนถึงปัจจุบัน

ดร.ปรีช�?/strong> ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญงานออกแบบอย่างยั่งยืนให้กั�?บริษัท อีโม-ดี จำกั�?(EMO-D Co., Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบอาคารที่คำนึงถึงการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อ�?(Sustainable Design) โดยเป็นทีมออกแบบ วิเคราะห์ด้านพลังงา�?และบริบทของสภาพแวดล้อมด้วยการนำเทคโนโลยีการวิเคราะห์ทางพลังงานและแนวทางการนำเทคนิคมาใช้ตั้งแต่เริ่มต้นแนวคิดไปถึงการก่อสร้างเพื่อให้ได้อาคารที่ตอบโจทย์ด้านประหยัดพลังงาน อีกทั้งยังทำหน้าที่ให้คำปรึกษาการประเมินอาคารเขียวของไทย (TRESS) อีกด้ว�?นอกจากนี้ยังเป็นที่ปรึกษาโครงการโตโยต้าโชว์รูมที่เข้าร่วมประเมินอาคารเขียวไทยมากกว่า 15 โครงกา�?ขณะเดียวกันใ�?�?�? 2550 จนถึงปัจจุบันได้เป็นที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างอาคารเรียนรู้พหุวิทยาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีรวมทั้งเคยเป็นหัวหน้แผนกการออกแบบอย่างยั่งยืน บริษัท คอนทัวร์ จำกั�?รวมถึงผลงานการออกแบบสระว่ายน้ำที่ไม่ใช้สารเคมีให้กับโครงการเวร่า สุขุมวิท 39 และรีสอร์ท ที่อำเภอปา�?จังหวัดแม่ฮ่องสอ�?และออกแบบการระบายอากาศโดยธรรมชาต�?โครงกา�?Rain Hill สุขุมวิท 47 และโครงการพาซิโอ ถนนรามคำแห�?เมื่อ �?�? 2555-2556 สำหรับผลงานการบรรยายและเป็นวิทยากรที่ผ่านมานั้�?ดร.ปรีช�?ได้ร่วมบรรยายให้ข้อมูลเกี่ยวกับการก่อสร้างและออกแบบอาคารเขียวในประเทศไทยให้กับมหาวิทยาลัย เช่�?มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยขอนแก่น และหน่วยงานต่างๆ อีกมากมา�?/p>
ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี�?ดร.ปรีช�?ได้เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมตรวจสอบอาคารประหยัดพลังงา�?/strong>หลายโครงกา�?ซึ่งทางหอการค้าเยอรมัน-ไท�?ได้จัดพิธีมอบรางวั�?“Energy Efficiency Award�?ขึ้น เพื่อเล็งเห็นความสำคัญจากกรณีที่มนุษย์ใช้ทรัพยากรพลังงานโลกไปอย่างมากมายมหาศาล และเพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้พลังงานที่ยั่งยืนในอนาค�?ซึ่งเป็นกิจกรรม “Showcasing Excellence Energy Efficiency for Building Including Solar Rooftop�?�?Made in Germany 2019 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางธุรกิจด้านพลังงานทดแทนแล�?strong>การใช้พลังงานอย่างยั่งยื�?/strong>ระหว่างประเทศไทยและประเทศเยอรมนี โดยท่านได้ร่วมเสวนาเกี่ยวกับมาตรฐานอาคารเขียวและกฎระเบียบสำหรับอาคารสร้างใหม่ในประเทศไท�?เพื่อสร้างจิตสำนึกให้คนไทยพัฒนาอาคารเขียว

จึงนับได้ว่า ดร.ปรีช�?เป็นผู้เชี่ยวชาญคร่ำหวอดในวงการด้านการออกแบบอาคารเขียวในประเทศหลายแห่ง และเป็นผู้เชี่ยวชาญงานออกแบบอย่างยั่งยื�?ซึ่งเป็นผู้ร่วมผลักดันขับเคลื่อนการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์พลังงานในประเทศไทยให้ยั่งยืนยาวนา�?โดยนำองค์ความรู้มาตรฐานหลักเกณฑ์อาคารเขียวของไทย เพื่อพัฒนาประเทศไม่ให้เสียเปรียบด้านการค้าและเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม

Source: นิตยสา�?Green Network ฉบับที�?96 พฤศจิกาย�?ธันวาค�?2562 คอลัมน�?GREEN People โด�?กองบรรณาธิกา�?/p>The post ดร.ปรีช�?มณีสถิตย�?ที่ปรึกษาสถาบันอาคารเขียวไท�?มุ่งสร้างจิตสำนึกใ��้คนไทยพัฒนาอาคารเขียว first appeared on Green Network.

Green People | Green Network

Green Network — Wed, 09 Oct 2019 01:35:11 +0000

นโยบายแนวทางการพัฒนาภาคธุรกิจอุตสาหกรรมให้มีความสอดคล้องกับศักยภาพ และความเป็นไปได้ของระบบนิเวศ รวมทั้งความผาสุกของสังคม เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมมีการแข่งขันกันสูงมาก ทั้งในด้านกระบวนการผลิ�?การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความแตกต่างและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อมลภาวะและสิ่งแวดล้อมเป็นพิษได�?ดังนั้�?เพื่อพัฒนาให้การประกอบกิจการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้าไปส่งเสริมและสนับสนุนสถานประกอบการสู่อุตสาหกรรมสีเขียว หรือ Green Industry ตามยุทธศาสตร�?Thailand 4.0 อย่างยั่งยืน

เฉกเช่นนี้ แนวทางในการขับเคลื่อนนโยบายอุตสาหกรรมสีเขียวจะต้องเกิดจากแนวคิดของผู้นำหรือผู้บริหารหน่วยงานที่มีหัวใจสีเขียวเป็นสำคัญด้วย จึงจะสามารถผลักดันโครงการต่า�?�?ให้เดินหน้าและประสบผลสำเร็จบรรลุตามเป้าหมายได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนอย่างวงกว้างต่อประเทศชาติ โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเกี่ยวกับการดำเนิ�?strong>โครงการอุตสาหกรรมสีเขียว คื�?กรมโรงงานอุตสาหกรร�?สังกัดกระทรวงอุตสาหกรร�?ซึ่งมีผู้บริหารหน่วยงานหลักท่านนี้คลุกคลีในแวดวงสายสิ่งแวดล้อมมาอย่างยาวนา�?และและเป็นผู้นำหัวใจสีเขียว นั่นก็คื�?ทองชัย ชวลิตพิเชฐ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรร�?/strong>

ทองชัย ชวลิตพิเชฐ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประกาศนียบัตรนักบริหารระดับสูง สถาบันพัฒนาข้าราชการพลเรือน วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เป็นผู้คร่ำวอดในกระทรวงอุตสาหกรรม จากประสบการณ์เคยดำรงตำแหน่งเป็นรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรร�?ผู้ตรวจกระทรวงอุตสาหกรรม รวมถึงผู้อำนวยการระดับสูงอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดเชียงรา�?ซึ่งตำแหน่งโดยก่อนหน้านี้��คยเป็นรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรา�?นอกเหนือจากนั้�?ยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานกรรมกา�?บริษัท บริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จำกั�?(มหาช�? ซึ่งเป็นบริษัทที่บริการกำจัดของเสียในภาคอุตสาหกรรมโรงงานต่าง �?รวมถึงเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ

ทองชัย ชวลิตพิเชฐ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรร�?/figcaption>

ทองชัย ถือเป็นผู้บริหารหัวใจสีเขียวที่มีแนวคิดดำเนินการตามนโนบายในฐานะภาครัฐในด้านการพัฒนาและส่งเสริมและพัฒนาบูรณาการระหว่างมิติทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อ�?ซึ่งตรงกันแนวคิดเรื่องประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิ�?โดยเป็นหนึ่งในนโยบายของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ที่ต้องการให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของภาคธุรกิจอุตสาหกรรมมีความสอดคล้อ��กับศักยภา�?และความเป็นไปได้ของระบบนิเวศ เกิดความสมดุล สร้างความผาสุกของสังคมด้วยอุตสาหกรรมสีเขียวเพื่อเป็นการพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยื�?และล่าสุดเมื่อเร็�?�?นี�?กรมโรงงานอุตสาหกรร�?ได้จัดโครงการตรวจประเมินสถานประกอบการที่ขอเทียบระดับหรือเลื่อนระดับสู่อุตสาหกรรมสีเขียวให้แก่สถานประกอบกา�?139 โรงงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับสถานประกอบการอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 3 ถึงระดับที�?5 ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นโครงการต่อเนื่องมาตั้ง��ต่ปี 2559

ทองชัย กล่าวว่า “สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทยที่ได้พัฒนาจนสามารถยกระดับเป็�?strong>อุตสาหกรรมสีเขียว ก็จะแสดงให้เห็นถึงประเทศไทยมีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อ�?สำหรับการจัดงานรับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียวถือเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่สถานประกอบการที่มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อ�?มีความรับผิดชอบต่อสังค�?และเพื่อให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถอยู่ร่วมกับสังคมและชุมชนได้อย่างมีความสุขและยั่งยืน รวมทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์และทัศนคติที่ดีต่อภาคอุตสาหกรรมของไทยอีกด้วย ที่สำคัญการพยายามที่จะทำให้ผู้บริโภคได้รับผลประโยชน์จากผลิตภัณฑ์สินค้าและการบริการโดยส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติน้อยที่สุด รวมถึงคำนึงการให้ผู้บริโภคลดการบริโภคทรัพยากรพลังงาน น้ำและที่ดิน หรือส่งเสริมให้ใช้ผลิตภัณฑ์ซ้ำใหม่ เป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยลดการปล่อยของเสี�?ขย�?และสารพิษออกสู่สิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดคุณภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นทั้งสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน อันจะส่งผลระยะยาวต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคตของประเทศและของโลกได้ด้วยครับ�?/p>
กรณ์ภัฐวีญ�?ม่วงน้อย รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม

ทางด้า�?กรณ์ภัฐวีญ�?ม่วงน้อย รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม จบปริญญาตร�?อุตสาหกรรมศาสตรบัณฑิ�?สาขาเทคโนโลยีขนถ่ายวัสด�?คณะวิศวกรรมศาสตร์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และเป็นศิษย์เก่าด��เด่�?ประจำป�?�?�? 2559 เป็นอีกบุคคลหนึ่งในฐานะผู้บริหารองค์กรที่มีเกียรติประวัติและผลงานสร้างชื่อเสียงมากมายให้กับกระทรวงอุตสาหกรร�?ในด้านโรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นผู้ผลักดันให้โรงงานจังหวัดต่า�?�?ร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อ�?โดยเริ่มตั้งแต่ป�?�?�?2526 รับราชการครั้งแรกที่สำานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพิษณุโลก ก่อนที่ต่อมาปี�?�?2552 �?2559 ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดต่า�?�?ทั่วภูมิภาคของประเทศ

กรณ์ภัฐวีญ�?/strong> กล่าวว่า “เนื่องจากกระแสของโลกม�?strong>การพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียวอย่างต่อเนื่อ�?ทางกรมโรงงานอุตสาหกรรม จึงต้องปรับเปลี่ยนให้สอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และจะวางรูปแบบของการพัฒนาที่สนองความต้องการของคนในรุ่นปัจจุบัน จึงอยากแนะนำไปยังโรงงานต่า�?�?ให้ความร่วมมือและปรับเปลี่ยนนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิ�?เพื่อเข้าสู่กระบวนกา�?strong>อุตสาหกรรมสีเขียวเพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนยาวนานให้เป็นไปตามมาตรฐานผ่านการรับรองจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งแผนนโยบายขับเคลื่อนต่อไปของกรมโรงงานอุตสาหกรร�?ได้วางเป้าหมายในแต่ละปีร่วมกับอุตสาหกรรมจังหวัด โดยมีนโยบายมาตรการให้โรงงานที่เปิดกิจการแล้�?แจ้งประสงค์ยื่นเอกสารเข้าสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว ซึ่งกรมโรงงานอุตสาหกรรมมีคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งจากกระทรวงอุตสาหกรรมให้ทำหน้าที่กำหนดกรอบแผนการดำเนินธุรกิ�?และคณะอนุกรรมการเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์และประเมินระดับอุตสาหกรรมสีเขียว อีกทั้งยังได้จัดสรรงบประจำปีในการสนับสนุนพัฒนาโครงการอุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อให้ผู้เกิดแรงกระตุ้นการรักษาสิ่งแวดล้อม และสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนและสิ่งแวดล้อมได้�?/p>
อย่างไรก็ด�?อุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) นับว่าเป็นโครงการที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรร�?ได้ดำเนินการส่งเสริม สนับสนุนให้โรงงานอุตสาหกรรมต่า�?�?ทุกระดับทั่วประเทศได้มุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียว ให้ทั่วโลกยอมรับ มุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือและกระตุ้นให้มีการพัฒนาและยกระดับการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อ�?ความปลอดภั�?และประหยัดพลังงา�?โดยมีหลายองค์กรสถานประกอบการชั้นนำได้มีการรายงานผลการดำเนินงานผ่านตัวเลข หรือ ค่าประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจขององค์กรสู่สาธารณะ ให้เกิดความสามารถในการแข่งขันด้านธุรกิจเพิ่มมากขึ้�?ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ของการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของภาคธุรกิจนั้�?�?ให้เกิดการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์และการบริการ และทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากผลิตภัณฑ์สินค้าและการบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยื�?/strong>

ข้อมูลที่คุณอาจสนใ�?/strong>

อุตสาหกรรมสีเขียว กับแผน�?12

บทบาทอุตสาหกรรมต่อการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยื�?/a>

พัฒนาสู่ความยั่งยื�?/a>

ทั่วโลกผนึกพันธมิตรโรงงา��สีเขียวรักษ์สิ่งแวดล้อม

The post กรมโรงงานอุตสาหกรร�?เดิน��น้าผลักดันให้ทุกโรงงานพัฒนาสู่การเป็น��ุตสาหกรรมสีเขียว first appeared on Green Network.

Green People | Green Network

Green Network — Wed, 14 Aug 2019 02:19:35 +0000

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นหน่วยงานราชการสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร�?วิจั�?และนวัตกรร�?มุ่งสร้างเสริมการวิจัย พัฒน�?ออกแบบ พร้อมส่งเสริมด้านการพัฒนากำลังคนและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน และสนับสนุนการดำเนินงานทุกส่วนสู่สังคมฐานความรู้ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปัจจุบันผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ คื�?ดร. ณรงค�?ศิริเลิศวรกุล ซึ่งเป็นผู้นำระบบบริหารคุณภาพ อีกทั้งยังมีความรู้และความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับระบบคุณภาพอื่น �?นอกจากนี�?ยังเป็นหนึ่งในคณะทำงานจัดตั้งรางวัลคุณภาพแห่งชาต�?เป็นอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการเทคนิครางวัลคุณภาพแห่งชาต�?และผู้ตรวจประเมินรางวัลคุณภาพแห่งชาต�?ตั้งแต่ป�?2547 จนถึงปัจจุบันได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานขอ�?สวทช. ให้เดินหน้าพัฒนาเพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติ

ดร. ณรงค�?ศิริเลิศวรกุล จบการศึกษาระดับปริญญาตรี วิศวกรรมอุตสาหกา�?(เกียรตินิยมอันดับ 1) จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้รับรางวัลเหรียญทองเรียนดีจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไท�?และทุนรัฐบาลไทยเพื่อศึกษาต่อจนจบปริญญาเอก สาขาวิศวกรรมการผลิ�?จากมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ โดยได้เริ่มงานครั้งแรกปีพ.�? 2536 ในตำแหน่งนักวิจัยของศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) ต่อมาในปีพ.�? 2540 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการโครงการระบบคุณภาพสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งรับผิดชอบให้คำปรึกษาในการพัฒนาระบบคุณภาพแก่ผู้ประกอบการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และในปีพ.�? 2543 ย้ายมาปฏิบัติงานด้านบริหารในตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยดูแลงานในสายสนับสนุนต่า�?�?ตั้งแต่งานบริหารบุคลาก�?งานพัฒนาองค์กร งานการเงินและบัญช�?และงานพัสด�?เป็นต้น หลังจากนั้นปีพ.�? 2547 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองผู้อำนวยกา�?สวทช. และต่อมาปี�?�?2559 ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สวทช. จนถึงปัจจุบั�?/p>
ดร.ณรงค�?/strong> ได้ริเริ่มโครงการต่า�?�?ใน สวทช. อีกมากมายพร้อมปรับภาพลักษณ์องค์ก�?สวทช. โดยล่าสุดเมื่อเร็�?�?นี้ได้ผลักดั�?สวทช. ลงนามความร่วมมือกับบริษั�?เม��ร์เซเดส-เบนซ์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไท�? จำกั�?โดยมอบให้ศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส�?(PTEC) เป็นแล็บทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน เป็นห้องปฏิบัติการทดสอบแบตเตอรี�?และห้องปฏิบัติการทดสอบยานยนต์อัตโนมัติ โดยตั้งเป้าให้เกิดการใช้งานห้องปฏิบัติการทดสอบแบตเตอรี่ในประเทศไท�?และพัฒนาทักษะองค์ความรู้ของผู้ปฏิบัติงานทดสอบในประเทศ ซึ่งจะเป็นศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศไทยสำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริ�?และรถยนต์ประเภท BEV เพื่อให้เกิดการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยี และสนับสนุนการทดสอบแบตเตอรี่ในยานยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุม รองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในอนาคต เพื่อรองรับการมาถึงของรถยนต์กลุ่มนี้ในอนาคต

ดร. ณรงค�?/strong> กล่าวถึงแนวคิดการจุดประกายสำหรับความร่วมมือดังกล่าวว่า “จุดเริ่มต้นเนื่องมาจากทางบริษั�?เมอร์เซเดส-เบนซ์�?มีความตั้งใจจะผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไท�?ซึ่ง สวทช. ในฐานะเป็นหน่วยงานภาครั�?เราได้ศึกษาค้นคว้าวิจัย และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกัน จึงเล็งเห็นว่าน่าจะทำให้เกิดการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ในไทยขึ้นได�?จึงตัดสินใจร่วมกันจัดตั้งศูนย์ทดสอบแบตเตอร์รี่สำหรับชาร์จไฟเพื่อให้เป็นการผลิตแบตเตอรี่และปฏิบัติการทดสอบเท่าเทียมระดับโลก และยังสามารถส่งออกไปยังนานาประเทศได้อีกด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติในทุ�?�?ด้าน�?/p>

สำหรับคุณสมบัติของแบตเตอรี่ลิเธียมนี�?เป็นนวัตกรรมที่สามารถเก็บกักพลังงานได้ดี น้ำหนักเบา และสามารถชาร์จซ้�?�?ได้หลายครั้ง ซึ่งจากการทดสอบแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดสำหรับรถเบนซ์สามารถวิ่งได้ระยะทางไก�?500 กิโลเมต�?หรือวิ่งระยะทางไกลที่สุดต่อการชาร์จไ�?1 ครั้�?และกรณีหากผู้ขับขี่ต้องขับอยู่ในถนนที่มีน้ำท่วมสูง การทำงานของแบตเตอรี่ลิเธียมที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงที่สุดจึงสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ได้ตลอดการเดินทาง ทั้งนี�?เนื่องจากลิเธียมเป็นส่วนประกอบหลักของแบตเตอรี�?เป็นสารที่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนง่ายและอาจเกิดการติดไฟขึ้นได้ จึงต้องมีการควบคุมกระบวนการผลิ�?การใช้งานอย่างมีประสิทธิภา�?การดูแลรักษาและการซ่อมบำรุงที่ถูกต้อ�?/p>

“PTEC จัดตั้งห้องปฏิบัติการทดสอบแบตเตอรี่ทั้งในระดับเซลล์ โมดู�?และแบตเตอรี่แพ็�?และการจัดตั้งห้องปฏิบัติการทดสอบยานยนต์ไร้คนขับแห่งอนาคตแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไท�?เช่�?การทดสอบประสิทธิภาพการชาร์�?ดิสชาร์จ เพื่อประมาณอายุการใช้งา�?และการรับประกันอายุแบตเตอรี่ที่ยาวนาน การทดสอบความปลอดภัยของแบตเตอรี่เมื่อเกิดการจมน้�?จากสถานการณ์น้ำท่วมถนนและการตกลงในน้�?การทดสอบความปลอดภัยของแบตเตอรี�?เมื่อขับบนถนนทางลูกรั�?ถนนดิน ซึ่งมีฝุ่นมากของประเทศไท�?รวมทั้�?การทดสอบสภาวะการทำงานของแบตเตอรี่ภายใต้การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิแบบทันทีทันใดจากร้อนสู่เย็นแบบทันทีทันใด เพื่อส่งแบตเตอรี่ไปจำหน่ายต่างประเทศ และการทดสอบการทำงานของแบตเตอรี่ด้วยการจำลองสภาวะการสั่นสะเทือนการกระแท�?เมื่อขับบนถนนขรุขระ การตกหลุมบ่อบนถน�?ตกไหล่ทา�?และกระแทกคอสะพาน เป็นต้น�?ดร.ณรงค�?กล่า�?/p>

ดังนั้�?PTEC สวทช. จึงเป็นห้องแล็บสำหรับปฏิบัติการทดสอบแบตเตอรี่ที่จะช่วยผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ในประเทศไท�?โดยห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานสากลจะทำให้อุตสาหกรรมในประเทศประหยัดค่าทดสอ�?ค่าขนส่ง สามารถแก้ไขปัญหาผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่ที่ไม่เป็นไปตามที่ออกแบ�?และเพื่อสนองนโยบายการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และพัฒนาฐานการผลิตแบตเตอรี่ให้เกิดในประเทศไทยอย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล

Source: นิตยสา�?Green Network ฉบับที�?94 กรกฎาค�?สิงหาค�?2562 คอลัมน�?GREEN People โด�?กองบรรณาธิกา�?/p>The post สวทช. มุ่งพัฒนาตั้งศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่รองรับการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า first appeared on Green Network.

Green People | Green Network

Green Network — Wed, 14 Aug 2019 01:55:26 +0000

กระแสการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าประเภทรถไฮบริด หรือ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าปลั๊�?อินไฮบริ�?(Plug-In HYBRID) ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของรถไฟฟ้าที่ผสานเครื่องยนต์เบนซิ�?ดีเซลกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ชาร์จได้โดยการเสียบปลั๊กไฟฟ้า หรือสถานีชาร์จไฟ ถือเป็นนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อ�?ส่งผลให้ผู้ประกอบการผลิตรถยนต์ทั่วโลกเกิดความตื่นตัวและปรับเปลี่ยนการผลิตรถยนต์ให้เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันในการขับขี�?เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่นิยมเพิ่มมากขึ้�?/strong>

เฉกเช่นนี้ จึงทำให้ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไท�? จำกั�?/strong> มุ่งเดินหน้าผลิตรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว (Battery Electric Vehicle �?BEV) เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่การปรับเปลี่ยนการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในมาเป็นมอเตอร์ไฟฟ้�?รวมถึงเทคโนโลยีอื่น �?มาอย่างต่อเนื่อ�?และสำหรับในประเทศไทยบริษั�?เมอร์เซเดส-เบนซ์�?ได้มีการเดินสายการผลิตรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริ�?(EQ Power) มาตั้งแต่ป��พ.�? 2558 โดยปัจจุบันการผลิตรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรว�?6 รุ่น ทั้ง C-Class E-Class แล�?S-Class เป็นการตอบรับต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยให้ก้าวไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์จากประเทศเยอรมนีจึงได้เล็งเห็นความสำคัญของประเทศไทยในการเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในภูมิภาค

มร. อันเดรอั�?เลทเนอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไท�? จำกั�?/strong> กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์�?ต้องการยกระดับการผลิตรถยนต์ที่ไม่ปล่อยไอเสียเลย เพื่อตอบสนองนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไท�?และเป็นการเตรียมความพร้อมสู่รูปแบบการสัญจรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคต เพื่อรองรับความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นในภูมิภาคนี�?อีกทั้งเล็งเห็นว่าโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทยจะมีเทคโนโลยีรถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้�?และรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว ขณะเดียวกันในป�?2565 บริษัท�?จะผสานระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเข้ากับรถยนต์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างทั่วถึง เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่เป็นรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าอย่างน้อย 1 รุ่นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ�?ตั้งแต่รถยนต์จากแบรนด์สมาร์ทไปจนถึงรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ�?นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสสำคัญสำหรับพนักงานของเราที่จะได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับหน้าที่ความรับผิดชอบใหม่ �?ที่ต้องใช้ทักษะความรู้ขั้นสู�?และมุ่งมั่นที่จะเพิ่มบทบาทสานต่อความร่วมมือกับพันธมิตรของเราในประเทศไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นต่อไปให้ประสบความสำเร็จ�?/p>

การเดินหน้าก้าวเข้าสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมของบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์�?เป็นอีกขั้นสำหรับการตอกย้ำถึงแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจนของบริษัทฯ แต่อย่างไรก็ดีนอกเหนือจากการผลิตรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดแล้ว บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์�?ยังได้ร่วมมือกับธนบุรีประกอบรถยนต์ลงทุนสร้างโรงงานแบตเตอรี่ในจังหวัดสมุทรปราการซึ่งนับเป็นแห่งที่ 6 ของโลก โดยล่าสุดได้ร่วมลงนามความร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เพื่อการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์พร้อมการทดสอบแบตเตอรี่ลิเธียมเป็นแห่งแรกในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน เป็นการยกระดับความสามารถของคนไท�?และสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชิ้นส่วนรถยนต์ในประเทศไทยให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต

Source: นิตยสา�?Green Network ฉบับที�?94 กรกฎาค�?สิงหาค�?2562 คอลัมน�?GREEN People โด�?กองบรรณาธิกา�?/p>The post บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไท�? จำกั�?ยกระดับรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริดใช้พลัง��านจากแบตเตอรี่ผลิตในไทย first appeared on Green Network.

Green People | Green Network

Green Network — Tue, 04 Jun 2019 06:03:08 +0000

การใช้พลังงานทดแทนที่ได้มาจากพลังงานแสงอาทิตย์กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงา�?โรงแรม รีสอร์�?หรือภาคอุตสาหกรร�?เพราะราคาของแผงโซลาร์เซลล์ได้ปรับตัวลดลงอย่างมากในปัจจุบัน รวมทั้งพลังงานในส่วนที่เหลือจากการใช้งานยังสามารถขายคืนให้แก่ภาครัฐได้อีกด้ว�?เป็นการลงทุนที่คุ้มค่�?จุดคุ้มทุนที่ต่ำ เพราะใช้ระยะเวลาไม่นานในการคืนทุน โดยเฉพาะในส่วนของอาคารโรงงานและอาคารคลังสินค้าต่าง �?ที่ต้องการประหยัดพลังงานไฟฟ้าในการประกอบธุรกิจ

บริษัท เฟรเซอร์�?พร็อพเพอร์ตี�?(ประเทศไท�? จำกั�?(มหาช�? หรือ FPT (ชื่อเดิ�?ไทคอ�? บริษัทข้ามชาติจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศสิงคโปร์ มีแนวทางดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งการเป็นผู้พัฒน�?เจ้าของ และผู้บริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภทแบบครบวงจร ภายใต้การดำเนินงาน ประกอบด้วย 4 ธุรกิจ ดังนี้

ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรร�?(Industrial Property) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนานและมีโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าทั้งรูปแบบพร้อมใช�?(Ready-Built) และพัฒนาตามความต้องการของลูกค้�?(Built-to-Suit) โดยปัจจุบันมีพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าภายใต้การบริหารจัดการกว่า 2.72 ล้านตารางเมต�?ตั้งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์กว่�?50 แห่งทั่วประเทศ โดยมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นบริษัทชั้นนำจากหลากหลายอุตสาหกรรมเข้ามาเช่าพื้นที่โรงงานและคลังสินค้�?/li>
ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ (Data Centre) รุกตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไท�?ด้วยการพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์บนพื้นที่ประมา�?60,000 ตารางเมต�?บนทำเลย่านถนนรามคำแหง ใจกลางกรุงเทพ�?/li>
ธุรกิจสมาร์ท โซลูชั่น (Smart Solutions) เป็นกลุ่มธุรกิจที่จะมาต่อยอดและช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าผ่านการนำเสนอเทคโนโลยีสมัยใหม่ อาทิ โคเวิร์คกิ้งสเปซ และโซลูชั่นด้านนวัตกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัต�?/li>
ธุรกิจพัฒนาเมืองอุตสาหกรรม (Township) เป็นกลุ่มธุรกิจที่เฟรเซอร์�?พร็อพเพอร์ตี�?ประเทศไทยได้ขยายขอบเขตและต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรร�?โดยดำเนินการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมบนที่ดินขนาดใหญ่ 4,300 ไร�?บริเวณถนนบางนา-ตราด กม.32

แผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา

นอกจากนี�?ยังเป็นผู้สนับสนุนและผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์�?พร็อพเพอร์ตี�?/strong> หรือ �?strong>FTREIT�?ซึ่งเป็นกองทรัสต์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไท�?/p>
ปัจจุบัน เฟรเซอร์�?พร็อพเพอร์ตี�?ประเทศไท�?/strong> ยังคงพัฒนาอาคารเขียวในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารคลังสินค้าอย่างต่อเนื่อ�?พร้อมกันนี้ได้มีนโยบายติดตั้งโซลาร์เซลล์ในหลายโครงกา�?ซึ่งสะท้อนถึงการมีส่วนร่วมในการประหยัดพลังงา�?โดยอาคารเขียวขอ�?FPT ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) จากประเทศสหรัฐอเมริก�?สูงสุดในระดั�?Gold อีกทั้งยังผ่านการรับรองมาตรฐาน EDGE (Excellence in Design for Greater Efficiencies) หรือมาตรฐานความเป็นเลิศในการออกแบบอาคารเพื่อประสิทธิภา�?/p>
หลอดไฟประหยัดพลังงาน
สำหรับนโยบายการก่อสร้างอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมาตรการด้านประหยัดพลังงานจากการพัฒนาติดตั้งโซลาร์เซลล์ในกลุ่มอาคารโรงงานและคลังสินค้านั้�?ได้รับเกียรติจา�?ดร.ทวีพ�?พูลเกษ รองผู้จัดการทั่วไป สายงานพัฒนาโครงการ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนขอ�?บริษัท เฟรเซอร์�?พร็อพเพอร์ตี�?(ประเทศไท�? จำกั�?(มหาช�? ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อผลิตพลังงานสะอาด พร้อมแนวทางการประหยัดพลังงานดังนี้
นอกอาคารคลังสินค้า

“บริษัทฯ มีมาตรการประหยัดพลังงานและลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ โดยได้พัฒนาก่อสร้างอาคารเขียวตลอดระยะเวล�?5 ปีที่ผ่านม�?และได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐในการริเริ่มโครงการติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อ�?เพื่อผลิตไฟฟ้าให้กับประชาชน นอกจากนั้นเรายังได้ศึกษาและพัฒนาติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในกลุ่มอาคารโรงงานอุตสาหกรรมและคลังสินค้�?มีวัตถุประสงค์มุ่งเน้นให้เกิดประโยชน์ร่วมกันกับทุกภาคส่วนในการใช้พลังงานสะอาดที่จะช่วยประหยัดทรัพยากรเกือบทุกประเภท ทั้งประหยัดพลังงานไฟฟ้�?ประหยัดพลังงานน้�?ทางเราได้ทำความเข้าใจกับกลุ่มลูกค้าที่เช่าอาคารมาโดยตลอ�?เพราะผู้ประกอบการจะใช้พลังงานไฟฟ้าในปริมาณที่สูงมากต่อวัน แต่หากเลือกใช้อาคารที่ติดตั้งโซลาร์เซลล์ก็สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้มา�?เป็นการช่วยลดต้นทุนได้จำนวนมหาศาลอีกทางหนึ่ง�?ดร.ทวีพ�?/strong> กล่า�?/p>
ภายในโรงงา�?/figcaption>
สำหรับอาคารให้เช่าของ FPT แบ่งออกเป็�?2 ประเภท คื�?กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมและคลังสินค้า ซึ่งในส่วนของอาคารโรงงานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต�?อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนอเล็กทรอนิกส�?เป็นต้น ขณะที่กลุ่มคลังสินค้�?ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ธุรกิจค้าปลี�?เป็นต้น ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการที่ทำสัญญาเช่าอาคาร จะมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์พลังงานที่หันมาใช้พลังงานสะอาดอย่างพลังงานแสงอาทิตย�?เรียกได้ว่ามีส่วนร่วมมือกันเพื่อการรักษ์โลกใบนี้ ส่วนเป้าหมายในอนาคตของบริษัทฯ ที่วางนโยบายการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ให้ครบทุกอาคารนั้น ยังต้องมีการพัฒน�?และศึกษาข้อมูลอย่างต่อเนื่อ�?โดยวางแผนการดำเนินงานเป็�?2 เฟส โดยเฟสแรกบริษัทฯ จะดำเนินการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาโรงงานหรือคลังสินค้าในกลุ่มลูกค้าผู้เช่าที่มีความต้องกา�?หรือมีนโยบายขององค์กรด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ชัดเจน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาและประเมินความต้องการของลูกค้าภายในพื้นที่บริการของบริษัท�?สำหรับเฟสที�?2 จะขยายการติดตั้งไปยังกลุ่มลูกค้ารายอื่นๆ เพื่อให้สามารถผลิตพลังงานสะอาดใช้ภายในอาคาร หรือภายในนิคมอุตสาหกรร�?หรือคอมมูนิตี้ใกล้เคียงได้อีกด้วย โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในอี�?3 ปี
“เรื่องของ Solar Energy นี�?ในอนาคตจะเป็นมาตรฐานใหม่ที่ทุกหน่วยงานจะได้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญในการมีส่วนร่วมมือกันประหยัดทรัพยากร ประหยัดพลังงานที่นับวันจะเหลือน้อยลงทุกวัน ผมมองว่า การติดตั้งโซลาร์เซลล์ หรือ โซลาร์ รูฟท็อ�?เป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีที่น่าลงทุ�?เนื่องจากให้ประโยชน์ในหลายแง่มุมตั้งแต่ระดับครอบครั�?ชุมช�?สังค�?และระดับชาติ ซึ่งในส่วนของผู้ประกอบกา�?แน่นอนว่าสามารถตอบโจทย์ทางธุรกิจด้วยการช่วยประหยัดงบประมาณได้ในภาพระยะยา�?ขณะเดียวกันในส่วนของประชาชนที่ติดตั้งบนหลังคาบ้านที่อยู่อาศัยของตนเองนั้นก็ช่วยลดค่าไฟฟ้าลงอย่างเห็นได้ชัดเจน�?/p>

ทั้งนี�?จุดยืนและการเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายด้านการอนุรักษ์พลังงานขอ�?strong>เฟรเซอร์�?พร็อพเพอร์ตี�?ประเทศไท�?/strong>ในทุกโปรเจกต์ หรือทุกโครงการก่อสร้างอาคารต่า�?�?จะพัฒนาให้เป็นอาคารเขียว ขณะเดียวกันก็จะดำเนินการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ทั้งในกลุ่มอาคารสร้างใหม่และอาคารเก่าให้ครบทุกอาคา�?จึงเป็นอีกหนึ่งองค์กรเอกชนที่มีส่วนร่วมในการประหยัดพลังงานด้วยการลงมือทำ ทั้งยังให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐด้วย ถือเป็นบริษัทเอกชนที่บริการด้วยหัวใจสีเขียวอย่างแท้จริง จึงไม่แปลกใจที่ประสบความสำเร็จด้านการพัฒนาอย่างยั่งยื�?/p>
ดังนั้�?เฟรเซอร์�?พร็อพเพอร์ตี�?ประเทศไท�?จึงเดินหน้าต่อยอดนวัตกรรมเพื่อผลิตพลังงานสะอาด สร้างบรรทัดฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรร�?/strong>

Source: นิตยสา�?Green Network ฉบับที�?93 พฤษภาค�?มิถุนายน 2562 คอลัมน�?SPECIAL People โด�?กองบรรณาธิกา�?/p>The post ดร. ทวีพ�?พูลเกษ เฟรเซอร์�?พร็อพเพอร์ตี้ฯ �?เดินหน้าติดตั้งโซล่าร์เซลล์ทุกอา��ารให้เป็นโรงงานสีเขียว first appeared on Green Network.

Green People | Green Network

Green Network — Mon, 07 Jan 2019 07:04:32 +0000

ผศ.ดร. สัญชัย เดชานุภาพฤทธา อาจารย์ประจําภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้�?คณะวิศวกรรมศาสตร�?มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้ที่ได้รับรางวัลIEEE PES Thailand Chapter Young Engineer Award 2018

เมื่อเร็วนี้�?IEEE Power & Energy Society – Thailand ได้จัดงา�?IEEE PES Dinner Talk 2018 โดยได้รับเกียรติจา�?ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ�?รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มากล่าวเปิดงาน และแสดงปาฐกถาหัวข้�?“มุมมองภาพพลังงานในอนาคต�?โดยภายในงานยังได้จัดให้มีเสวนา หัวข้อเรื่อ�?“Disruptive Technology for Thailand Grid and Energy Supplies of the Future : พลิกโฉมธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานในอนาคต�?และมีการมอบรางวั�?IEEE PES Thailand Chapter Young Engineer Award 2018 ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลนี้คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สัญชัย เดชานุภาพฤทธา อาจารย์ประจําภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้�?คณะวิศวกรรมศาสตร�?มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ผศ.ดร.สัญชัย กล่าวถึงจุดเริ่มต้�?ในการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนวงการวิศวกรรมไทยและเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งขอ�?IEEE �?PES Thailand Chapter ว่�?เริ่มจากการมีโอกาสได้มาเป็นผู้บรรยายทางวิชาการ ในงานสัมมนาต่างๆ และงานที่เกี่ยวข้อกับวิชาการและงานวิจั�?การเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งขอ�?IEEE �?PES Thailand Chapter ทำให้ได้มีโอกาสนำความรู้ความสามารถที่ม�?ไปช่วยงานสมาคมด้านต่าง�?โดยเฉพาะด้านวิชาการและการถ่ายทอดผลงานวิจัย เช่�?การเป็นผู้บรรยายถ่ายทอดผลงานวิจัยสมัยที่ทำงานที่ประเทศญี่ปุ่�?การเป็นกรรมการพิจารณาบทความที่ส่งมาเข้าร่วมงานประชุมวิชากา�?การทำหน้าที่เป็นผู้บรรยายร่วม (moderator) กับผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่มาบรรยายถ่ายทอดองค์ความรู้ในงานประชุมวิชากา�?หรือการทำหน้าที่เป็นผู้บรรยายในหัวข้อที่กำลังเป็นที่สนใจของภาคอุตสาหกรรม เป็นต้น ซึ่งภารกิจเหล่านี้ส่งเสริมให้ได้พัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวล�?เพราะต้องศึกษาเพิ่มเติมองค์ความรู้ใหม่�?และร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้งานของสมาคมสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี การที่ได้เข้ามาร่วมวงกับ PES ข้อดีก็คือ ทำให้ได้รู้จั��อาจารย์หลายๆ ท่าน และได้เพิ่มพูนความรู้ของตนเองไปด้วย

แนวความคิดในการส่งเสริมการศึกษาเพื่อพัฒนาวิชาชีพด้านวิศวกรรม

ในปัจจุบัน สถาบันการศึกษาได้มุ่งเน้นให้มีการพัฒนาหลักสูตรด้านวิศวกรรมไฟฟ้าให้มีความทันสมั�?ตอบโจทย์การผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถวิชาชีพด้านวิศวกรรมไฟฟ้�?สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศให้มีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรร�?/p> ในฐานะที่เป็นบุคลากรในภาคการศึกษ�?จึงเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินการในส่วนนี�?ซึ่งทางภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้�?คณะวิศวกรรมศาสตร�?มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้สนับสนุนและส่งเสริมให้มีการปรับปรุงหลักสูตรวิศวกรรมไฟฟ้าให้มีความทันสมัยอยู่ตลอดเวลาตามการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและนวัตกรรมของโลกในปัจจุบั�?โดยมุ่งเน้นในการพัฒนาบัณฑิตให้มีความรู้ความสามารถด้านวิศวกรรมไฟฟ้าอย่างแท้จริง ไม่เพียงรู้แต่ในตำราแต่ต้องรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัต�?ให้สามารถทำงานได้ตามความต้องการของตลาดแรงงานของประเทศปัจจุบันและอนาคต และสนับสนุนการพัฒนางานโครงงานด้านวิศวกรรมไฟฟ้าของนิสิต เพื่อให้นิสิตได้มีโอกาสพัฒนาตนเองโดยนำความรู้ที่เรียนมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนางานโครงงานให้สำเร็จลุล่ว�?ซึ่งจะช่วยให้บัณฑิตที่จบไปมีทักษะในการทำงานด้านวิศกรรมไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น
ความภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งของต้นแบบที่ดีด้านวิช��ชีพวิศวกรร�?/strong>

“รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้รับคัดเลือกจากทางสมาคมฯ ให้ได้รับรางวัลนี้ ช่วยให้มีกำลังใจในการพัฒนาตนเองทั้งทางด้านงานสอนและถ่ายทอดองค์ความรู้ เพื่อพัฒนาบุคลากรในประเทศซึ่งถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ ด้านการทำงานบริการวิชากา�?ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาและนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ บางครั้งเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมจากต่างประเทศที่จะนำมาใช้อาจไม่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไท�?ต้องมีการปรับแต่งเทคโนโลยีเหล่านั้นให้มีความเข้ากันกับการนำมาใช้งานในประเทศด้านการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรร�?ทำให้ประเทศมีองค์ความรู้ของตนเอง มีศักยภาพมากขึ้นในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันและมีนวัตกรรมเป็นของตนเอง�?ผศ.ดร.สัญชัยกล่า�?/p>

ผศ.ดร. สัญชัย เดชานุภาพฤทธา
อาจารย์ประจําภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้�?คณะวิศวกรรมศาสตร�?มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ประวัติการศึกษ�?/strong>

B.Eng. (Electrical Engineering) Sirindhorn International Institute of Technology (SIIT), 2543
M.S. (Electrical Engineering) Sirindhorn International Institute of Technology (SIIT), 2546
D.Eng. (Electrical Engineering) Kyushu Institute of Technology (Kyutech), JAPAN, 2551

สาขาวิจัยที่เชี่ยวชาญ

Power system stability analysis; dynamics and robust control,

Power system optimization and computational intelligence,

Wide-area monitoring, protection and control,

Smart grids and energy efficiency.

ผลงา�?/strong>

ติดตามได้ที่ //research.rdi.ku.ac.th/forest/OutputByPersonEx.aspx?ID=540004

The post ผศ.ดร. สัญชัย เดชานุภาพฤทธา อาจารย��ประจําภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้�?คณะวิศวกรรมศาสตร�?มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ first appeared on Green Network.

Green People | Green Network

Green Network — Wed, 28 Nov 2018 02:33:59 +0000

เมื่อพูดถึงวิธีการประหยัดไฟฟ้�?ทั้งภายในครัวเรือนและในระดับโรงงานอุตสาหกรรม มีอยู่ด้วยกันหลากหลายรูปแบบและวิธีกา�?แต่สิ่งที่ทำง่ายที่สุด และเป็นทางเลือกแรกๆ สำหรับผู้ที่คิดจะประหยัดไฟ นั่นคือการเปลี่ยนจากหลอดไฟแบบอื่น�?มาใช้หลอดไ�?LED ซึ่งในวันนี้ เราได้มาพูดคุยกับ อัศพ�?บุณยเกียรติ ผู้จัดการทั่วไ�?บริษัท เน็กซ�?อินโนเทค จำกั�?/b> ในฐานะผู้พัฒนาโซ��ูชั่นเทคโนโลยีด้านไฟฟ้าแสงสว่า�?เพื่อการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภา�?/span> ในงา�?ไทยแลนด์ไลท์ติ้งแฟร์ แล�?ไทยแลนด์ บิวดิ้งแฟร�?2018

รู้จัก เน็กซ�?อินโนเทค

อัศพ�?บุณยเกียรติ ผู้จัดการทั่วไ�?บริษัท เน็กซ�?อินโนเทค จำกั�?/span> กล่าวถึงภาพรวมของบริษัทว่า บริษัท�?ในฐานะผู้พัฒนาโซลูชั่นเทคโนโลยีด้านไฟฟ้าแสงสว่างที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยประหยัดพลังงานที่เรียกว่�?สมาร์ท ไลท์ติ้ง ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่มหลอดประหยัดไฟแอลอีดีซึ่งเป็นที่นิยมทั้งในปัจจุบันและรองรับการใช้งานในอนาค�?ตั้งแต่หลอดไฟแอลอีดีที่ใช้งานตามบ้านพักอาศัย ไปจนถึงกลุ่มหลอดไฟแอลอีดีส��หรับอุตสาหกรร�?ตลอดจนให้บริการวางแผนการติดตั้งและบริการหลังการติดตั้งแบบครบวงจร บริษัท�?คาดว่าจะสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้ทุกระดับความต้องการและโซลูชั่นที่พร้อมรองรับได้ทุกกลุ่มตลา�?/span>

  สำหรับการเข้าร่วมงานไทยแลนด์ ไลท์ติ้ง แฟร์ 2018 ในปีนี�?นับเป็นปีที่ 4 เนื่องจากมองเห็นศักยภาพของงานที่เป็นเวทีที่ได้พบปะผู้ประกอบการ��ลุ่มเป้าหมายและบริษัท�?ได้มีโอกาสนำเสนอองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ให้กับผู้เข้าชมงาน

�?/span>ภายในบูธของเน็กซ�?อินโนเทค ในปีนี�?เราได้นำผลิตภัณฑ์ในกลุ่�?LED High Bay แล�?LED Low Bay ไปจัดแสด�?โดยเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการระบบไฟฟ้าแสงสว่างในโรงงานที่มีประสิทธิภา�?ช่วยประหยัดพลังงาน และลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้อย่างแท้จริง นอกจากนี�?ยังมีผลิตภัณฑ์หลอดไฟสำหรับโรงแรม รีสอร์�?ได้แก่ กลุ่มหลอดไฟแอลอีดีที่ใช้กับดิมเมอร์ (LED Dimmer) บริษัท�?มุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภา�?เพื่อสร้างความมั่นใจและความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์แบรนด�?เน็กซ�?(Nex) ที่เป็นแบรนด์ของคนไทยอย่างแท้จริงที่ได้รับการยอมรับและมีมาตรฐานสาก�?/span>�?/span>

คุณภาพขอ�?LED มีผลต่อความปลอดภัย

อัศพ�?กล่าวว่า ในตลาดขอ�?LED นั้น สิ่งที่ยากคื�?รูปลักษณ์ภายนอกเหมือนกันหมดเลย แต่ที่ราคาถูกหรือแพงต่างกันนั้�?มันขึ้นอยู่กับคุณภาพภายใ�?ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถที่จะบอกกันง่าย�?ซึ่งจริง�?แล้ว ประเทศไทยมีมาตรฐานเกี่ยวกับ LED แต่ประชาชนไม่ค่อยได้รับข้อมู�?และในเมื่อไม่รู้ว่ามันต่างกันอย่างไร ก็ไม่มีใครอยากซื้อของแพง ซึ่งมันจะมีปัญหาบางเรื่องที่เกิดจากหลอดไฟด้อยคุณภาพ อย่างที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง ยกตัวอย่างเช่�?อาคารแห่งหนึ่ง อยู่ดี�?เกิดไฟไหม�?ก็อาจจะเกิดคำถามว่�?ระบบดับเพลิงทำไมไม่ทำงาน ปรากฏว่า สิ่งที่ไม่มีใครคาดคื�?สาเหตุของการเกิดไฟไหม้ที่แท้จริ�?ที่อาจเกิดจากการใช้หลอด LED ที่ไม่มีคุณภาพ  

อัศพ�?อธิบายต่อว่า ใน LED ที่ไม่มีคุณภาพ จะเกิดตัวนึงเรียกว่�?Harmonics ในก��ะแ�?ถ้าเกิ�?Harmonics ที่สูง จะทำให้เกิดความร้อนในกระแสสวนทาง สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ถ้าเป็นสายไฟเก่าๆ สายไฟมันจะไหม้ แล้วถ้าสายไฟไหม้จะดับยาก เพราะว่าระบบกันไฟจะฉีดลงข้างล่า�?แต่สายไฟนวิ่งอยู่บนเพดาน แล้ว Harmonics นี่ยังไปกวนการทำงานของ Solenoid ทำให้เกิดปัญหาเยอะแยะ แต่เรามองไม่เห็�?ทีนี�?มันกระเทือนถึงบ้านเรามั้ย เนื่องจากบ้านเราใช้หลอดน้อยไม่มีปัญห�?แต่ถ้าหลอดเยอ�?เป็นร้อ�?เป็นพัน Harmonics มโหฬารเลย ถ้าเกิ�?40% ขึ้นไป จะเกิดความร้อนแล้�?มาตรฐานอาคารสูงในบ้านเรา จะกำหนดค่า Harmonics ไว้ไม่เกิ�?15% เท่านั้�? แต่หลอดด้วยคุณภา�?ลองมาวัด Harmonics จะได้ถึง 140 เลยทีเดียว

“เราไม่ได้บอกว่าคุณภาพ LED ของเราดีอย่างไ�?แต่ภายในงา�?เราจะมีมิเตอร์มาวัดคุณภาพของหลอดให้เห็นกันเลย ของเราจะมีการเกิ�?Harmonics อยู่ประมาณ 5 แล�?3 ซึ่งระหว่า�?140 กั�?3 ต้นทุนมันต่างกันมา�?แต่ด้วยสำนึก ด้วยความเป็นไทย สำนึกในเรื่องของตลาด เราพยายามทำตรงนี้ ในเรื่องของการทำงาน ในการขาย เราตามราคาจีนไม่ได้ เพราะสินค้าของเราเน้นคุณภาพและมาตรฐา�?การมาออกงานแบบนี�?คือการมาอธิบายให้เข้าใ�?ถึงสิ่งที่ควรมีในหลอ�?LED หลอดหนึ่�?เราอย่าดูถูกว่าคนไทยไม่ซื้อหรอกของแพง เราเชื่อว่าผู้ซื้อยอมจ่ายแพงกว่า เพียงแต่เขาต้องได้รู้ว่�?เขาจะได้อะไ�?คุณจะกล้าใช้ไห�?ถ้าคุณรู้ว่า หลอดไฟราคาถูกอาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้ การใช้หลอดไฟคุณภาพ นอกจากจะเกิดความปลอดภัยแล้ว ยังสามารถใช้ได้ยาวนา�?ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย�?จนเกิดขยะมากมาย NEX ยืนยันที่จะผลิตสินค้าคุณภา�?ในราคาที่เหมาะสม เพราะนี่ก็คือการยกระดับมาตรฐานของไทย�?/span>

อนาคตตลา�?LED ยังเติบโตได้อีกไกล

อัศพ�?กล่าวถึงตลาด LED ในอนาคตว่า โรงงานไทยอาจจะสู้จีนไม่ได้ เพราะต้นทุนต่างกั�?เราก็อย่าไปสู�?ปล่อยตรงนั้นไป รักษามาตรฐานของเราไว�?แล้วทำให้ด�?ตลาด LED ยังอีกใหญ่ ยังเติบโตได้ ด้วยหลายปัจจัย 1) ภาครัฐสนับสนุนเรื่องพลังงาน ซึ่งการลดพลังงานทำได้หลายวิธ�?แต�?LED เป็นจุดเริ่มต้นที่ง่ายที่สุด ถ้าโรงงานทั้งโรงงานเปลี่ยนมาใช�?LED ก็จะเห็นผลเลยในทันท�?ว่�?ค่าไฟมันลดลง 2) ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี คุณจะทำธุรกิจยังไง ก็ต้องขายให้มากขึ้�?เพื่อให้มีกำไรกลับเข้าม�?แต่ถ้าเกิดขายมากไม่ได�?สิ่งที่ต้องทำคือ ลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้ต้นทุนน้อยล�?กำไรจ��ได้เกิดขึ้�?แล้วสิ่งที่สัมผัสง่ายที่สุดตอนนี้คือ LED

อันนี้คือการเติบโต��อง LED ซึ่ง �?ตอนนี้ยังโชคดีอยู่ แต่ภายในปีหน้า เทรนด์ของ LED จะเปลี่ยนแล้ว เราจะพัฒนายังไงมันก็ตันอยู่แค่นี้ สิ่งที่จะต้องท�?คื�?จะต้องแข่งขันกันที่คุณภาพของชิฟดีขึ้�?วัตต์น้อยล�?ให้แสงมากขึ้�?แต่ราคาไม่ได้เปลี่ยน ฉะนั้น เทรนด์ของ LED ก็จะไปทางโซลูชั่นมากขึ้น เช่�?เป็�?IOT เป็นอะไรต่างๆ เพื่อให้ตลาดโตมากขึ้น

การผนวกเอาโซลูชั่นต่าง�?มาใช้กับ LED เราได้เริ่มทำมาหลายปีแล้ว เช่�?การเอาเซนเซอร์ไปติดในหลอดไ�?ในกรณีที่ต้องเปิดไ�?24 ชม. ถ้าไม่มีคนแสงไฟก็จะดิมลง แต่ถ้ามีคนมาเซนเซอร์จับได้ ไฟก็จะสว่างขึ้�?เป็นต้น นอกเหนือจากนั้นก็มีการพัฒนาออกไปเรื่อยๆ ส่วนในเรื่องการติดตั้งก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิ�?เพราะเราใช้ตัวที่เรียกว่�?Retro Flex คื�?อะไรก็แล้วแต่ที่เป็นของเดิ�?อย่าไปยุ่ง เราเอาทั้งหมดใส่บนหลอดเรา เราก็ใช�?Housing เดิมใส่ได้เลย ไม่ต้องรื้อของเก่ามาติดตั้งใหม่ สะดวกสบา�?ใครๆ ก็ติดตั้งเองได�?/span>

หลอด LED ช่วยอะไรใน Green Building

ในเรื่อ�?/span> Green Building จริง�?แล้ว คำกว่ากรีน ก็มีมาตรฐานอยู่หลายเรื่อ�?ทั้ง ไฟฟ้�?น้�?และตัวอาคารเอง แต่ถ้าพูดถึงเรื่องไ�?อันดับแรกต้องเปลี่ยนหลอดไฟกันก่อนเลย LED ช่วยในเรื่อ�?ใช้แล้วมันเย็�?ถ้าเปิดหลอดปกติพอเปิดไปนาน�?จะร้อนมากขึ้�?แต่แอลอีดีจะเย็�?เปิดแล้วติดเลยไม่ต้องร�?อีกอย่าง ในไฟฟ้�?มีตัวนึงเรียกว่�?Power factor คื�?การใช้พลังงานที่สมบูรณ�?อย่างถ้า Input เข้าไ�?1 วัตต�?มันกลับม�?1 วัตต�?ถือว่า พลังงานสมบูรณ์ ซึ่งในหลอดนีออ�?Input เข้าไ�?1 วัตต�?Power factor ออกมาแค่ 0.4 – 0.5 เท่านั้�? ใน LED ราคาถู�?ก็ 0.5 เช่นกัน นั่นเท่ากับว่�?กำลังของแสงสว่าง ความคุ้มค่�?หายไปครึ่งนึ�?แต่มาตรฐานประเทศอยู่ที�?0.85 เขายอมให้สียหายได้แค่ 15% ซึ่งการออกมาตรการตรงนี�?เพื่อคุมพาวเวอร์แฟคเตอร์ให้ด�?/span>

“ถ้าใช้หลอดนีออน 1 หลอด คุณจ่ายค่าพลังงานสองเท่�?คุณต้องการแส�?1 ยูนิตต�?คุณต้องจ่ายสองเท่าตลอ�?LED ขอ�?NEX จะอยู่ที�? 0.9 ฉะนั้น ถ้าถามเรื่องพลังงานกรีน นี่ก็คือใช่เลย คือการได้พลังงานบริสุทธิ์กลับมาเกือบเต็�?นอกจากหลอดไฟแล้ว เรายังมีนวัตกรรมอื่นๆ แฝงมาเพื่อการลดใช้พลังงา�?เช่�?ถ้าเกิดไฟดับกะทันหัน แล้วไฟติดขึ้นมาพร้อมกั�?ค่าพีคจะสูงมาก แต่ถ้ามาใช้บ็อกซ์ควบคุมของเรา จะมีการควบคุมให้เปิดทีละเฟส มันก็ไม่ลอสในพลังงาน อาคารก็จะกรีนขึ้�?/span>�?อัศพ�?/b>กล่าวทิ้งท้า�?/span>

เตรียมพบกับ Nex Innotech ได้ที่งา�?/b>ประชุมวิชาการและนิทรรศการนานาชาต�?/b> IEEE PES GTD ASIA 2019 ในวันที่ 21-23 มีนาคม 2019 �?ศูนย์นิทรรศกา��และการประชุมไบเทค บางน�?/b>
The post อัศพ�?บุณยเกียรติ จา�?Nex Innotech ชี�?LED คุณภาพสูงปลอดภัย และประหยัดพลังงานได้อย่างยั่งยืน first appeared on Green Network.

Green Network — Wed, 17 Oct 2018 02:18:35 +0000

ปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตไอน้ำในภาคอุตสาหกรรมมีให้เลือกใช้หลากหลายตามความต้องการของโรงงานและภาคอุตสาหกรรมซึ่งล้วนแต่ได้รับการออกแบบที่เหมาะสมในการใช้งานร่วมกับหม้อไอน้ำที่มีหลายขนาดตั้งแต่ขนาดไม่กี่ตันต่อชั่วโมงจนถึงขนาดหลายพันตันต่อชั่วโม�?/span>บริษัท เกนเนอยี จำกั�?(GAINERGY CO.,LTD.) เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ดำเนินการสร้างโรงงานผลิตไอน้ำด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งนำเข้าจากประเทศจีนชูจุดเด่นใช้พื้นที่น้อ�?คุ้มค่ากับการลงทุน ��ระหยัดค่าใช้จ่า�?เหมาะส��หรับทุกอุตสาหกรร�? และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

เกนเนอยีนำเทคโนโลยีล้ำสมั�?/b>

สร้า�?/b>โรงงานผลิตไอน้ำตอบโจทย์อุตสาหกรร�?/b>

คุณสมบูรณ์ สิริไพบูลย์พงศ�?กรรมการผู้จัดการบริษัท เกนเนอยี จำกั�?/b>กล่าวว่า จากประสบการณ์เมื่อครั้งทำงานที่กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นเวลาเกือบปี และประสบการณ์ในตำแหน่งวิศวกรเหมืองแร่ลิกไนต์ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไท�?(กฟ�?) เป็นเวลากว่�?10 ปี รวมทั้งเป็นผู้บริหารระดับสูงขอ�?/span>บริษัท ยูนิ�?ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกั�?(มหาช�? หรือ UMS อีกกว่�?10 ปี ทำให�?/span>คุณสมบูรณ์เห็นช่องทางในการต่อยอดสร้างโมเดลธุรกิจโรงงานผลิตไอน้ำด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของโรงงานอุตสาหกรรมในปัจจุบั�? จึงจัดตั้งบริษัท เกนเนอยี จำกั�?/b>ขึ้นเมื่อปลายปี �?�?2560 ด้วยทุนจดทะเบียน 86 ล้านบา�?เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้โรงงานอุตสาหกรรมทุกประเภท สามารถผลิตไอน้ำด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อนำไปใช้ในกระบวนการผลิตของแต่ละอุตสาหกรรมได้อย��างมีประสิทธิภา�?คุ้มค่าต่อการลงทุน และที่สำคัญคือ ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนรอบข้าง

“เรามองเห็นช่องทางตรงนี้ก็เลยตัดสินใจนำเทคโนโลยีชนิดนี้เข้ามาเพื่อเป็นตัวช่วยที่เหมาะกับโรงงานที่ใช้ไอน้ำ หรือโรงงานที่มีระบบไอน้ำแบบเก่าต้องการเปลี่ยนระบบไอน้ำใหม่ที่สำคัญช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เป็นปัญหากวนใจผู้ประกอบการโรงงานภาคอุตสาหกรรมมาโดยตลอด�?/span>คุณสมบูรณ์กล่า�?/span>

ใช้พื้นที่น้อย

คุ้มค่าต่อการลงทุน

สำหรับโมเดลธุรกิจโรงงานผลิตไอน้ำด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากประเทศจี�?ถือเป็นรูปแบบธุรกิจใหม่ที่บริษัท�?นำเสน�?/span>ให้ลูกค้าในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีจุดเด่นตรงที่ใช้พื้นที่น้อ�?เพียงแค่ลูกค้�?/span>มีพื้นที่กว้าง 15 เมต�?ยา�? 50 เมต�?ขนาดไม่ถึง 1ไร�?/span> ก็สามารถสร้า�?/span>โรงงานผลิตไอน้ำได้ ไม่ว่าจะก่อสร้างในพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมของลูกค้าที่มีอยู่เดิ�?หรือโรงงานใหม่ที่เริ่มต้นก่อสร้างธุรกิ�?/span>โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมก็สามารถใช้บริการได้ทั้งนี้บริษัทฯ จะมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคำนวณการใช้พลังงานและออกแบบการก่อสร้างอย่างด�?โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้างและทดลองระบบต่างๆ เพียง 6 เดือน

“ในการลงทุนเบื้องต้นจะมีค่ามัดทำสัญญาว่าจ้างกันตามสมคว�?เจ้าของธุรกิจจะต้องมีพื้นที่ตามที่ตกลงกันไว้ไม่น้อยกว่าหนึ่งไร่ ภายในกรอบสัญญาการดำเนินการ 4 ปี เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการดำเนินการของทั้งสองฝ่าย หากเกิดกรณีลูกค้าไม่พอใจยกเลิกสัญญาขึ้นทันท�?เราก็สามารถที่จะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่เราสร้างขึ้นได้ทันทีเช่นกัน แต่ผมเชื่อว่าลูกค้าพอใจแน่นอนเพียงแต่ต้องมอบการทำงานด้านการผลิตไอน้ำแก่ทางเราเท่านั้�? ทั้งนี�?/span>ภายใต้สัญญาที่ตกลงกันระหว่างเจ้าของโรงงาน เจ้าของธุรกิจ หรือลูกค้าของเรา สามารถคิดค่าปรับเราได้หากไอน้ำที่เราผลิตขึ้นมาไม่ได้คุณภาพ ไม่ได้มาตรฐา�?และไม่เป็นไปตามข้อตกลงที่ระบุไว้ในสัญญา�?/span>คุณสมบูรณ์กล่า�?/span>

เลือกใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง

ประหยั��ค่าใช้จ่า�? เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อ�?/b>

ในการผลิตไอน้ำ บริษัทเกนเนอยี ได้แนะนำเทคโนโลยีที่มั่นใจได้ว่าประหยัดและคุ้มค่าต่อลูกค้�?โดยทำการเปรียบเทียบจากการใช้เทคโนโลยีชนิดเดียวกันแต่ใช้เชื้อเพลิงต่างกั�?เช่�?ถ้าเปรียบเทียบกับน้ำมันเตา เทคโนโลยีของเราที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตจะ��ระหยัดกว่ามา�? และเนื่องจาก ถ่านหิ�?เป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลชนิดหนึ่งที่อยู่ในสถานะของแข็ง เกิดจากการทับถมกันของซากพืชในยุคดึกดำบรรพ�?ทำให้ถ่านหินมีปริมาณมากกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิล��นิดอื่น �?จากข้อมูลพบว่า ถ่านหินของโลกจะมีเพียงพอต่อการใช้งานไปอีกอย่างน้อย 110 ปี ถ่านหินในประเทศไทยเหลือใช้อยู่ถึง 69 ปี

สำหรับหม้อไอน้ำที่ใช้ก็แตกต่างจากทั่วไ�? โดยใช้หม้อไอน้ำที่โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ใช้กันเนื่องจากทางเราเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิ�?พร้อมกันนี้ยังมีการเตรียมวัตถุดิบประเภทถ่านหินที่เหมาะสมที่ได้รับการเลือกสรรมาอย่างดี ซึ่งไม่เป็นมลพิษและนำเข้ามาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ว่าปลอดภัยใช้ประสิทธิภาพที่ดีเยี่ย�? ทำให้กระบวนการผลิตไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมรอบข้างเพราะใช้ระบบปิดในการบริหารจัดการผลิตไอน้ำทั้งกระบวนกา�?ซึ่งตรงนี้อาศัยความรู้ความชำนาญเรื่องถ่านหินที�?/span>คุณสมบูรณ์มี ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะไม่ส่ง��ลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และทำให้การผลิตไอน้ำมีประสิทธิภาพสูง

“ระบบดั้งเดิมที่ทำกันก็คือระบบสโตกเกอร์ (Stoker) ในการจัดกา�?สำหรับระบบสโตกเกอร์นี้ไม่ใช่มีแค่โรงงานเท่านั้�?จะต้องมีการจัดการเรื่องถ่านหิน มีที่เก็บสต๊อก เก็บถ่านหิน ซึ่งจะต้องมีไซโลจำนวนมาก แต่เขาไม่เก็บในไซโลเพราะราคาแพ�?จึงเลือกเก็บในโกดังแท�?ซึ่งเสี่ยงกับรถบรรทุกขนส่งเข้�?ออกในโกดังที่มาพร้อมกับฝุ่นฟุ้งกระจา�? อันนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ไม่ใช่หมายความว่ามีแค่เครื่องจักรแล้วจบ จะต้องมีการจัดเตรียมพื้นที่สำหรับทำโรงงานไอน้ำด้ว�?แต่ถ้าเป็นระบบของเรารับรองจะไม่เกิดปัญหาเหล่านี้แน่นอน�?/span>คุณสมบูรณ์ กล่า�?/span>

เผยเครื่องจักรที่ใช้ผลิตไอน้�?/b>

เพิ่ม-ลดการใช้เชื้อเพลิงได้ตามที่ต้องการ

คุณสมบูรณ์ กล่าวว่า จุดเด่นของเครื่องจักรที่ใช้ผลิตไอน้�?ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของเกนเนอยี คื�?สามารถเพิ่มหรือลดการใช้เชื้อเพลิงได้เหมือนการใช้เชื้อเพลิงน้ำมันเตากล่าวคือ ถ้าต้องการไอน้ำเพิ่มขึ้นก็สเปรย์เชื้อเพลิงเพิ่มเข้าไ�?แต่ถ้าต้องการลดไอน้ำก็ปรับลดเชื้อเพลิงตามความเหมาะสมในเวลาที่รวดเร็วมาก ด้วยเทคโนโลยีการจัดการแบบใหม่ที่เข้าใจภาคอุตสาหกรรมและสนองความต้องการได้อย่างรวดเร็�? ขณะที่เครื่องจักรทั่วไปที่ใช้ถ่านหินเช่นเดียวกั�?หากต้องการลดการใช้ปริมาณไอน้ำแต่กำลังการผลิตของไอน้ำยังคงปกต�?ทำให้ส่งผลกระทบต่อการผลิตไอน้ำได�?บางทีอาจจะจำเป็นต้องหยุดเครื่องแล้วเริ่มเดินเครื่องใหม่ ทำให้เสียเวลามาก

�?/span>ขณะนี้มีลูกค้าที่สนใจกำลังเริ่มเข้ามาให้บริษัท�?ดำเนินการดูในรายละเอียดของสัญญาการว่าจ้างแล้วหนึ่งรายเป็นโรงงานต้นแบบขนา�?10 ตันไอน้ำ ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงประมาณ 15 ตั�?คิดค่าใช้จ่ายในการดูแลในราคา 1,200 บาทต่อตันไอน้ำ และสามารถขยายการผลิตไอน้ำได้สูงสุด 60 ตันไอน้ำ ขึ้นอยู่ความต้องการของลูกค้า�?คุณสมบูรณ์ กล่า�?/span>

เล็งอุตสาหกรรมอาหาร

เป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมา�?/b>

สำหรับเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจของเกนเนอร์ยีนั้นแผนการดำเนินงานในลำดับแรกบริษัท �?ได้วางเป้าหมายด้านการ��ลาดที่จะรุกโรงงานที่ใช้หม้อไอน้ำที่ใช้น้ำมันเตา และโรงงานที่ใช้เชื้อเพลิงชีวมวลในการผลิตไอน้ำ ให้หันมาเลือกใช้เทคโนโลยีของบริษัทฯ ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่า�?ส่วนแผนงานลำดับต่อไปจะเข้าไปรุกตลาดผู้ใช้หม้อไอน้ำที่ใช้เชื้อเพลิงคือถ่านหิน ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานแล้ว ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อ�?/span>

; ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเกนเนอยีได้แก่ อุตสาหกรรมอาหา�?อุตสาหกรรมประเภทวัตถุดิบเลี้ยงสัตว์ ปลาป่น ที่มีการอบขณะนี้มีลูกค้าที่สนใจแล้วกว่�?8 รา�?หากสา��ารถทำสัญญาและก่อสร้างโรงงานผลิตไอน้ำได้ทั้งหมดจะสามารถผลิตไอน้ำให้แก่ลูกค้าได้ภายในป�?�?�? 2562

คุณสมบูรณ์ กล่าวย้ำว่�?เทคโนโลยีแล�?/span>เครื่องมือที่บริษัท�?นำมาบริการลูกค้านี้จะมีความเสถียรตลอดทำงานคุ้มค่าสามารถที่จะพัฒนาต่อยอดการทำงานที่เหมาะสมแก่ธุรกิจของลูกค้าที่ต้องการปริมาณไอน้ำได้ไม่จำกัดตามความเหมาะสมได้ตลอ�?โดยในขณะนี้เรากำลังหาวิธีสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใ�? และแนะนำให้ลูกค้าได้เห็นภาพ ซึ่งมั่นใจว่าระบบนี้จะเป็นที่ต้องกา�?สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าทั้งในปัจจุบันและอนาคต
The post เกนเนอยี เปิดธุรกิจใหม�?รับสร้างโรงงานผลิตไอน้ำด้วยเทคโนโลยีทันสมั�?ใช้เชื้อเพลิงถ่านหิ�?เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อ�?/a> first appeared on Green Network.

Green People | Green Network

Green People | Green Network

Green People | Green Network

Green People | Green Network

Green People | Green Network

Green People | Green Network

Green People | Green Network

Green People | Green Network

Green People | Green Network

แนวความคิดในการส่งเสริมการศึกษาเพื่อพัฒนาวิชาชีพด้านวิศวกรรม

ความภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งของต้นแบบที่ดีด้านวิช���ชีพวิศวกรร�?/strong>

Green People | Green Network

ความภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งของต้นแบบที่ดีด้านวิช��ชีพวิศวกรร�?/strong>