Green World | Green Network

Green Network — Thu, 14 Mar 2024 03:37:46 +0000

มิลปิตาส, แคลิฟอร์เนี�?และมิวนิ�? เยอรมนี �?7 มีนาคม 2567 �?SolarEdge Technologies, Inc. (“SolarEdge�? (NASDAQ: SEDG) ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีพลังงานอัจฉริย�?ประกาศลงทุนและจับมือเป็นพันธมิตรกับ AMPEERS ENERGY (“AMPEERS”) สตาร์ทอัพซอฟต์แวร์สัญชาติเยอรมัน ผู้พัฒนาโซลูชั่นลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสำหรับอาคารที่พักอาศัยหลายหลังคาเรือน ครอบคลุมบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลากหลายรายทั่วเยอรมนีและออสเตรีย

ความร่วมมือครั้งนี้ผสานเทคโนโลยี, ซอฟต์แวร�? และบริการจากทั้ง SolarEdge (พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานอัจฉริย�? และแพลตฟอร์ม AMPEERS สร้างสรรค์โซลูชั่นพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจรสำหรับผู้เช่าอาคาร โซลูชั่นนี้มอบทางเลือกที่ครอบคลุมสำหรับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในการสร้างอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อ�?ประกอบด้วย การวางแผ�? การติดตั้ง, การเงิ�?สำหรับระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์และแบตเตอรี่สำรอง, ระบบคิดค่าไฟสำหรับผู้เช่�? โครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้�? และเทคโนโลยีทำความร้อนรูปแบบใหม่ โซลูชั่นนี้มุ่งสร้างประโยชน์ทั้งแก่เจ้าของที่ดินและผู้เช่�?ด้วยการประหยัดค่าไฟจากการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ภายในอาคา�?และติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และระบบคิดค่าไฟสำหรับผู้เช่าได้อย่างรวดเร็วและง่ายดา�?/p> เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์อันล้ำสมัยของ SolarEdge ที่มีคุณสมบัติเด่�?เช่�?ระบบความปลอดภัยบิลด์อินในตัว, เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้�? ความยืดหยุ่นในการออกแบ�? และลดต้นทุนการดูแลรักษ�?ล้วนส่งผลดีต่ออาคารที่พักอาศัยหลายหลังคาเรือนซึ่งมีพื้นที่หลังคาจำกัด

การลงทุนและจับมือเป็นพันธมิตรกับ AMPEERS ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของ SolarEdge ในการคว้าโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับรูปแบบการใช้ไฟฟ้าของผู้เช่าในเยอรมนี [1] และยังเป็นการขยายตลาดไปยังกลุ่มอาคารที่พักอาศัยหลายหลังคาเรือนทั่วทั้งยุโร�?/p>

Zvi Lando, CEO ขอ�?/strong> SolarEdge Technologies, กล่าวว่า “ประชากรกว่าครึ่งหนึ่งในเยอรมนีอาศัยอยู่ในอาคารที่พักอาศัยหลายหลังคาเรือน โดยส่วนใหญ่เช่าอาคารเหล่านี�?การร่วมมือกั�?AMPEERS ในการนำเสนอโซลูชั่นพลังงานอัจฉริยะแบบครบวงจรแก่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงพลังงานแสงอาทิตย์ที่สะอาดและประหยัดให้กับผู้คนจำนวนมากขึ้นทั่วประเทศ”

Dr. Karsten Schmidt, CEO และผู้ก่อตั้งร่วมของ AMPEERS ENERGY กล่าวว่า “SolarEdge เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนอัจฉริยะ ความร่วมมือครั้งนี้มุ่งเน้นแนวทางแบบองค์รวมที่ผสานเทคโนโลยี, ซอฟต์แวร�? และบริกา�?เราตั��งใจมอบโซลูชั่นพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับผู้เช่าที่ปรับขยายได�?/em>
การลงทุนนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการปิดตามปกติบางประการและการอนุมัติตามข้อกำหน�?และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในครึ่งปีแรกของปี �?�? 2567

แคปชั่นภาพ: การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากที่พักอาศัยด้วยปั๊มความร้อนและระบบไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ �?มุมมองจากด้านบนของเขต Duisburg-Ungelsheim (ภาพจาก: AMPEERS ENERGY)
The post SolarEdge ประกาศร่วมทุนกับ AMPEERS ENERGY สตาร์ทอ��พซอฟต์แวร์สัญชาติเยอรมัน มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอาคารที่พักอาศัยหลายหลังคาเรือน first appeared on Green Network.

Green World | Green Network

Green Network — Wed, 01 Nov 2023 09:11:22 +0000

ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนมีสูงถึงกว่า 80,000 คนในแต่ละป�?เอเวอเรสต์ คือหนึ่งในจุดหมายปลายทาง��นการเดินเทรคกิ้งที่ได้รับความนิยมสูงสุดแห่งหนึ่งของโล�?คือที่ที่ผู้คนล้วนต้องการมาเติมเต็มความฝัน อีกทั้งมาเพื่อพิสูจน์ขีดจํากัดของตัวเอง นอกเหนือจากนั้�?ที่นี่ยังเป็นที่ที่ผู้คนนำพาขยะมาทิ้งทับถมไว้เป็นจำนวนโดยประมาณถึง 250 ตันต่อปีอีกด้ว�?/strong>

สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเราในการเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู�?เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เดลล์ เทคโนโลยีส์พร้อมให้การสนับสนุ�?Sagarmatha Next Centre องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรซึ่งดำเนินการโดยนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมท้องถิ่�?โดยตัวศูนย์ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้กั�?Syangboche Namche Bazar บนเส้นทางเบสแคมป์บนเทือกเขาเอเวอเรสต์ ทำหน้าที่ในการให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวเกี่ยวกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่กําลังเพิ่มมากขึ้�?และพยายามมองหาวิธีในการลดผลกระทบที่เกิดจากขย�?/p>
Sagarmatha Next Centre

Sagarmatha Next Centre ตั้งอยู่ที่ระดับความสู�?3,775 เมตรเหนือระดับน้ำทะเ�?เป็นจุดที่ต้องหยุดพัก (Must-stop) สําหรับนักเดินทางที่มาเยี่ยมเยือนเส้นทางปีนเขาเพื่อขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งนี่ถือเป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่งในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการทำงานและความพยายามขององค์กรให้เป็นที่รู้จักและเข้าใจในหมู่นักปีนเขาทุกคนที่ผ่านเข้าม�?/p>
สําหรับโครงการนี�?เดลล์ เทคโนโลยีส์ได้ทํางานร่วมกับ มาร์ติ�?เอ็ดสตรอม นักสํารวจของเนชันแน�?จีโอกราฟิค (National Geographic) ในการสร้างภาพยนตร์ที่เป็นวิดีโอสั้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงผลกระทบในทางลบของขยะที่มีต่อพื้นที่แห่งนี้ ในขั้นตอนต่อไปของเดลล์คือการส่งมอบเทคโนโลยีล้ำสมัยให้กั�?Sagarmatha Next Centre ทั้งเพื่อโชว์เคสวิดีโอ และเพื่อให้โอกาสเสริมเพิ่มเติมในการยกระดับประสบการณ์ผ่านเทคโนโลยีเสมือนจริ�?(Virtual Reality) ผ่านหน้าจอวิดีโอ โปรเจคเตอร์แบบอินเทอแอคทีฟที่สามารถตอบโต�?(Interact) ได�?/p> โด�?Sagarmatha Next Centre ใช้เทคโนโลยีส์ที่ได้รับจากเดลล์ เทคโนโลยีส์ในการสร้างความตระหนักรู้ ประกอบด้วย

นิทรรศการดิจิทัล นักเดินทางที่มาเยี่ยมเยือนสามารถสำรวจและได้รับประสบการณ์ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลในพื้นที่ทุกตารางนิ้วของการอำนวยความสะดวกภายในศูนย์ก่อนที่จะออกเดินทางต่อไ�?/li>
แผนที่ภายในพื้นที่และเส้นทางทั่วไป นักเดินทางสามารถมองเห็�?17 เส้นทางการปีนเขาที่แตกต่างกันที่จะนำไปสู่เบสแคมป์ของยอดเขาเอเวอร์เรสต์ รวมถึงเส้นทางสู่จุดหมายปลายทางอื่นๆ ภายในหุบเขา 4 แห่งภายในพื้นที่แวดล้อ�?/li>
การให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการขยะแบบฝังกล�?(Landsfills) �?นักเดินทางจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับพื้นที่มากกว่า 80 แห่งที่เป็นพื้นที่ในการจัดการขยะแบบฝังกลบบนเอเวอร์เรสต์ รวมถึงวิธีการที่สามารถทำได้ในการลดปัญหาขยะที่ถูกทิ้งให้ลดน้อยล�?/li>

ด้วยพลังของพีซ�?OptiPlex Micro Form Factor มอนิเตอร์ Dell 55 4K Interactive Touch ที่มาพร้อมเทคโนโลยี InGlassTM Touch 20 จุดและเทคโนโลยี Palm Rejection ช่วยให้นักเดินทางสามารถมีปฏิสัมพันธ�?หรือ interact กับมอนิเตอร์พร้อมกันหลาย�?คนได้อย่างต่อเนื่อ�?ตัวมอนิเตอร์มากับเทคโนโลยี In-Plane Switching (IPS) ที่ให้สีคมชัดเที่ยงตรงสมจริง พร้อมมุมมองในมุมกว้า�?(Wide Angle) ซึ่งเหมาะสมอย่างที่สุดสำหรับการเรียนรู้เป็นหมู่คณะแม้กระทั่งอยู่ในช่วงเวลาระหว่างวันที่แสงแดดแผดจ้าในพื้นที่ที่ระดับความสูงขนาดนี�?/p> สำหรับผู้มาเยือนอีกหลายต่อหลายคนที่เดินทางขึ้นสู่เอเวอร์เรสต์ เบสแคมป�?และอาจไม่สามารถปีนขึ้นสู่ซัมมิทที่สูงถึง 8,850 เมตรได้ ที่นี่ยังให้ประสบการณ์ผ่าน VR ที่เอ็ดสตรอมสร้างขึ้นเพื่อนำพายอดสูงสุดของเอเวอร์เรสต์มาอยู่ต่อหน้าด้วยการใช้พลังและการสร้างสรรค์บ�?Dell Precision โมบายเวิร์กสเตชั่นจากเดลล์
การให้การสนับสนุนของเดลล์ เทคโนโลยีส์ ไม่ได้จำกัดเพียงแค่การให้เทคโนโลยีเท่านั้�?หากแต่ยังรวมไปถึงบริจาคให้กับแนวคิดริเริ่มของโครงการ Carry Me Back ขอ�?Sagarmatha Next อีกด้ว�?/p>
เมื่อผู้มาเยี่ยมชมออกจากศูนย์ไปแล้ว พวกเขาต่างได้รับกำลังใจในการกระตุ้นให้พวกเขานำเอาสิ่งที่เรียนรู้ติดตัวไปและกลายเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหา โครงกา�?Carry Me Back ที่ริเริ่มขึ้นให้โอกาสเหล่านักเดินทางที่มาเยี่ยมเยือนในการช่วยกำจัดขย�?ด้วยการเก็บพวกมันลงถังขยะที่มีอยู่ก่อนที่จะถูกลำเลียงเพื่อไปรีไซเคิลต่อที่กาฐมาณฑ�?ด้วยแนวคิดริเริ่มนี�?องค์กรประสบความสำเร็จในการกำจัดขยะถึงกว่�?5,000 ถุ�?หรือคิดเป็นจำนวนขยะถึง 5,000 กิโลกรัมออกจากเอเวอเรสต์นับตั้งแต่วันที่โครงการเริ่มต้นขึ้นในเดือนเมษายนของปี 2022 ซึ่งขยะโดยส่วนใหญ่จะถูกนำไปรีไซเคิลต่อไปThe post เดลล์ เทคโนโลยีส์ สนับสนุน Sagarmatha Next Centre ในการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ปัญหาขยะพลาสติกบนยอดเขาเอเวอเรสต์ first appeared on Green Network.

Green World | Green Network

Rachanon M. — Tue, 31 Oct 2023 01:50:35 +0000

Nissin Cup Noodles พัฒนาไปอีกขั้นสามารถนำบรรจุภัณฑ์ถ้วยกระดาษรีไซเคิลเข้าตู้ไมโครเวฟได�?และไม่ต้องรอนานถึง 3 นาที โจเซฟ ลามูร์ จากวอชิงตั�?ดี.ซี. สหรัฐอเมริก�?เขียนบทความบนเว็บไซต์ข่าวเมืองลุงแซมอย่า�?Today ซึ่งรายงานเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านม�?โดยบทความดังกล่าวได้เปิดเผยถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Nissin Cup Noodles บะหมี่ชื่อดังของประเทศญี่นปุ่น ที่เตรียมพัฒนาไปอีกขั้นสามารถเข้าตู้ไมโครเวฟได้เลยโดยไม่ต้องต้มน้ำให้เสียเวลาอีกต่อไ�?/p> การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของแบรนด์ Nissin นับตั้งแต่เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาป�?1973 โดยที่บะหมี่รุ่นเก่ากำลังจะยกลิกใช้ถ้วยที่ผลิตจาก โพลีสไตรีน (PS) เปลี่ยนไปเป็นถ้วยกระดาษเวอร์ชันใหม่จากเส้นใยรีไซเคิ�?40% กระดาษรีไซเคิ�?100% และคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2024 นอกจากบะหมี่ถ้วยโฉมใหม่สามารถเข้าไมโครเวฟได้แล้�?ยังใช้เวลาเพียง 2 นาที 15 วินาที�?ซึ่งถือว่าเร็วกว่าปกติของบะหมี่ถ้วยในปัจจุบันที่ใช้เวล�?3 นาทีในการร�?ยังไม่รวมขั้นตอนต้มน้ำ
“นับตั้งแต่การคิดค้นเมื่อกว่า 50 ปีก่อน บะหมี่ถ้วยได้กลายเป็นเสาหลักทางวัฒนธรรมและอาหารหลักของครอบครัวทั่วโล�? ในขณะที่บะหมี่ถ้วยยังคงมีรสชาติที่น่าพอใจและรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเหมือนเดิ�?แต่เรายังคงมองหาแนวทางในการพัฒนาแบรนด์ของเราเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภ�?ทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อมและโลกในปัจจุบัน บรรจุภัณฑ์และถ้วยกระดาษใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของบะหมี่คัพและเป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อม” ไมเคิ�?ไพรซ�?ประธานและซีอีโอของ Nissin Foods America กล่า�?/p> สำหรับการเปลี่ยนไปใช้ถ้วยกระดาษของ Cup Noodles เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Earth Food Challenge 2030 ขอ�?Nissin ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มที่เริ่มลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 30% ภายในป�?2030 และมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050

ที่ม�?: today
The post Nissin ประกาศบะหมี่ถ้วยเวอร์ชั่นใหม่เข้าไมโคร��วฟได�?แถมไม่ต้องรอ 3 นาที first appeared on Green Network.

Green World | Green Network

Green Network — Fri, 15 Sep 2023 02:46:09 +0000

“Rare Earth�?หรือแร่หายาก นับเป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมหลายอย่า�?ไม่ว่าจะเป็นการผลิตสมาร์ทโฟ�?การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และในอุตสาหกรรมพลังงานอย่างการผลิตกังหันลม และแผงโซลาร์เซลล์

และอย่างที่หลายๆ คนทราบกันด�?แหล่งผลิตสำคัญของแร่หายากที่ว่านี้ ส่วนใหญ่มาจากประเทศจี�?ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดมากถึ�?80% ของแร่หายากทั่วโลก จึงนับได้ว่าประเทศจีนถือว่ากึงผูกขาดแร่หายาก และปัจจุบันการจัดหาวัตถุดิบได้กลายมาเป็นเครื่องมือทางภูมิรัฐศาสตร์ด้ว�?ซึ่งที่ผ่านมาสหภาพยุโรปก็ตระหนักถึงเรื่องนี้ และพยายามเปลี่ยนกลยุทธ์อุตสาหกรรมเพื่อลดการพึงพาการนำเข้าจากจี�?หลาย�?ประเทศในยุโรปจึงได้หันมาลงทุนในอุตสาหกรรมเหมืองแร่เพื่อผลิตแร่หายากด้วยตนเอง โดยที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมกลยุทธ์ลดการพึ่งพาวัตถุดิบที่สำคัญจากภายนอกยุโรป สหภาพยุโรปได้เสนอกฏหมายว่าด้วยวัตถุดิบสำคัญของยุโร�?(European Critical Raw Materials Act) เพื่อเข้ามามีส่วนช่วยในห่วงโซ่อุปทานวัตถุดิบสำคั�?เพื่อเสริมสร้างความแข่งแกร่ง และสร้างความยืดหยุ่นให้กับห่วงโซ่อุปทานภายในสหภาพยุโรป
และล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สหภาพยุโรปได้ลงมติแผนการจัดหาวัตถุดิบสำคัญที่จำเป็นในการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงองค์ประกอบสำคัญอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืน เพื่อพยายามผลักดันให้มีการกระจ่ายแหล่งวัตถุดิ�?ลดการพึ่งพาจากจี�?โดยตั้งเป้าภายในปี 2030 ให้บริษัทเหมืองแร่ภายในยุโรปจะต้องไม่พึงพาประเทศใดประเทศหนึ่งเกิ�?65% ของการจัดหาวัตถุดิบเชิงกลยุทธ์ใด�?/p>
ทั้งนี�?เพื่อดำเนิน��ารด้านเศรษฐกิจด้วยพลังงานสะอาดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล สหภาพยุโรปจำเป็นต้องมีวัตถุดิบสำคัญ เช่�?ลิเธียมสำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และซิลิคอนสำหรับเซมิคอนดักเตอร์ในแผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งปัจจุบันต้องจัดหาวัตถุดิบหายากเหล่านี้จากหลายประเทศ ซึ่งร่วมทั้งจีนด้ว�?/strong>

การเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด จำเป็นต้องมีปัจจัยการผลิตจำนวนมากจากแร่ธาตุสำคั�?โดยเฉพาะแร่ธาตุสำคัญ 5 ชนิด ได้แก่ นิกเกิ�?โคบอลต�?ลิเธียม ทองแดง และนีโอไดเมียม (รวมถึงอื่น�?อย่า�?เหล็ก ซีเมนต์ พลาสติ�?และอะลูมิเนียม) ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานหลายประเภท ตั้งแต่กังหันลมและแบตเตอรี�?EV ไปจนถึงโครงข่ายไฟฟ้า ความต้องการแร่ธาตุสำคัญทั้�?5 ชนิดนี�?จะเพิ่มขึ้น 1.5 ถึ�?7 เท่าภายในปี 2030 ในสถานการณ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในป�?2050 (NZE)

แหล่งที่มา :

www.theguardian.com

www.iea.org

The post EU ลดการพึ่งพาวัตถุดิบสำคัญจากจีน สำหรับการผลิตแบตเตอรี่และแผงโซลาร์เซลล์ first appeared on Green Network.

Green World | Green Network

Rachanon M. — Tue, 22 Aug 2023 08:57:01 +0000

ฟูมิโอ�?คิชิดะ ��ายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่�?ออกคำสั่งให้ปล่อยน้ำปนเปื้อนรังสีจากโรงไฟฟ้าลงทะเลกว่�?1 ล้านเม��ริกตัน โดยได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงทั้งคนในประเทศ ร่วมถึงประเทศเพื่อนบ้าน�?/strong>

(AP Images )

แผนการปล่อยโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ได้รับอนุมัติให้ปล่อยน้ำที่ค้างตั้งแต่สึนามิเข้าถล่มเมื่อปี 2554 ลงสู่ทะเลตั้งแต่ 2 ปีก่อน ซึ่งแม้น้ำจะผ่านการบำบัดรังสีด้วยเทคโนโลยี ALPS เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ชาวประมงรวมถึงชาวบ้านโดยรอบยังคงแสดงความกังวลเสมอม�?จนเมื่อล่าสุดโรงไฟฟ้าดังกล่าวถึงคราวปลดระวา�?ส่งผลให้ ฟูมิโอ�?คิชิดะ นายกรัฐมนตรีแดนอาทิตย์อุทั�?มีคำสั่งให้ปล่อยน้ำลงสู้ทะเลทันทีในวันที่ 24 �?�? นี�?/p>

“ผมขอให้สัญญาว่า รัฐบาลจะดูแลรับผิดชอบให้อุตสาหกรรมประมงของเรายังคงเดินหน้าต่อไปได�?ต่อให้จะต้องใช้เวลาอีกหลายสิบปีก็ตาม�?คิชิดะ กล่า�?/p>
ด้าน หวัง เหวินปิ�?โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ออกมาแสดงความห่วงใยต่อสิ่งมีชีวิตในท้องทะเ�?รวมถึงชาวบ้านโดยรอบที่ต้องอาศัยน้ำในการดำรงณ์ชีวิต ซึ่งอาจกินดื่มหรือใช้โดยมีสารปนเปื้อนปนอยู่ก็เป็นได้ และหากมีสารปนเปื้อนก็จะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้วเนื่องจากสารได้กระจายสู่ทะเลเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ยังประณามการกระทำของคิชิดะว่าเป็นบุคคลที่เห็นแก่ตั�?พร้อมสั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากประเทศญี่ปุ่นที่มีภัยเสี่ยงต่อปนเปื้อนจำนวน 10 จังหวั�?/p>

ขณะที่ กลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านนิวเคลียร์ได้รวมตัวกันหน้าสำนักนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเพื่อคัดค้านการตัดสินใจของรัฐบา�?โดยมีผู้ชุมนุมรา�?230 คน ซึ่งนายมาซาช�?ทานิ ผู้อำนวยการของสภาญี่ปุ่นฝ่ายต่อต้านระเบิดปรมาณูและระเบิดไฮโดรเจน ได้ออกมากล่าวว่า “เราไม่รู้ว่าการปล่อยน้ำปนเปื้อนลงสู่ทะเลจะใช้เวลานานเพียงใด และสิ่งนี้จะทิ้งภาระไว้ให้คนรุ่นหลัง�?/p>

ภาพจาก : CGTN Frontline
The post ชาวบ้านยกนิ้�?นายกญี่ปุ่นสั่งลุยปล่อยน้ำปนเปื้อนลงทะเ�?ท่ามกลางกลุ่มต่อต้าน first appeared on Green Network.

Green World | Green Network

Rachanon M. — Tue, 22 Aug 2023 06:34:19 +0000

ประเทศแคนาดา เตรียมประกาศข่าวด�?เมื่อลูกวัวฝูงแรกที่รัฐออนแทรีโ�?ที่มีกำหนดตื่นลืมตาขึ้นมาดูโลกปีหน้าพร้อมกับการช่วยโลกด้วยการลดปล่อยก๊าซมีเทน

สำนักข่า�?รอยเตอร์�?สื่อดังเมืองผู้ด�?รายงานเมื่อวันที่ 8 สิงหาค�?ที่ผ่านม�?โดยระบุว่า ในฤดูใบไม้ผลิหน้�?(มี.�? – มิ.�?) ลูกวัวของชาวแคนาดานามว่า เบน โลวิ�?ซึ่งลูกวัวของเขาจะตื่นขึ้นมาลืมตาดูโลก และถือเป็นฝูงวัวหนึ่งในตัวแรกของโลกที่คลอดออกมาด้วยเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม โดยคัดจากพ่อพันธุ์ที่มีลักษณะทางพันธุกรรมของก๊าซมีเทนต่�?ผสมเทียมกับวัวเพศเมี�?107 ที่ยังไม่เคยมีลูกมาก่อ�?/p>
“ตราบใดที่เราไม่เสียสละคุณสมบัติอื่นๆ การสืบพันธุ์แบบเลือกสรรเพื่อลดการปล่อยมลพิษดูเหมือนจะเป็นชัยชนะที่ง่ายดา�?#8221; ลอวิชญ�?ชาวนารุ่นที่สา�?ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนผสมเทียมวัวในรัฐออนแทรีโ�?ประเทศแคนาดา กล่า�?/p>
ด้านนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงปศุสัตว์กล่าวว่าการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีทางพันธุกรรมที่มีอยู่ในเชิงพาณิชย์สามารถผลิตโคที่ปล่อยก๊าซมีเทนน้อยลง ซึ่งอาจช่วยลดแหล่งที่มาของก๊าซเรือนกระจกที่มีประสิทธิภาพได้มากที่สุ�?การกรนของวัวเรอหรือขับลมเป็นแหล่งที่มาหลักของการปล่อยก๊าซมีเทนออกม�?/p>
บริษัทซีเม็กซ�?(Semtex) ซึ่งเป็นบริษัทพันธุกรรมขายน้ําอสุจิวั�?กล่าวว่า วัวตัวผู้จะช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนในการปศุสัตว์แคนาดาได้รา�?1.5% ต่อป�?และสูงสุดถึง 20-30% ภายในป�?2050 ซึ่งตอนนี้ได้เริ่มทำการตลาดกับขายน้ําอสุจิใน 80 ประเทศ ช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ ทั้งฟาร์มในสหราชอาณาจักรและฟาร์มนมในสหรัฐอเมริก�?รวมถึงสโลวะเกี�?/p>
ข้อมูลจา�?: Reuters

ภาพจาก : Protocultura จาก�?a href="//pixabay.com/th//?utm_source=link-attribution&utm_medium=referral&utm_campaign=image&utm_content=5177251">Pixabay
The post ลูก��ัวแคนาดาฝูงแรกของโลก อาจช่วยโลกจากการลดปล่อยก๊าซมีเทน first appeared on Green Network.

Green World | Green Network

Green Network — Thu, 20 Jul 2023 04:16:55 +0000

สหราชอาณาจักรเตรียมบังคับใช้มาตรการฉบับใหม่เกี่ยวกับการแบนพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ในเดือนตุลาคมนี�?ทำให้ไม่สามารถทำการผลิตและจำหน่ายพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งได้อีกต่อไ�?ถึงแม้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะเป็นพลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) ที่สามารถย่อยสลายได้ก็ตา�?/strong>

ตามประกาศก่อนหน้านี้ที่สหราชอาณาจักร เตรียมบังคับใช้มาตรการห้ามใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (single-use plastic) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคมนี�?โดยจำกัดการขายช้อนส้อม จา�?ชา�?ถา�?ก้านลูกโป่�?รวมถึงถ้วยพลาสติกและภาชนะบรรจุอาหารบางประเภท ซึ่งจะทำให้บริษัทต่างๆ ไม่สามารถทำการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เป็นพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งในสหราชอาณาจักรได้ รวมถึงผู้คนก็จะไม่สามารถหาซื้อ หรือรับผลิตภัณฑ์ต่าง�?ที่เป็นพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งจากภาคบริการต่าง�?เช่�?ร้านค้�?ร้านอาหา�?และบริการแบบซื้อกลับบ้านได้อีกต่อไ�?/p>
ซึ่งนอกจากผลิตภัณฑ์จากพลาสติกแล้�?มาตรการบังคับใหม่นี้ จะยังมีผลครอบคลุมห้ามถึงผลิตภัณฑ�?ที่มาจากพลาสติกแบบชีวภาพ (Bioplastic) ด้วย แม้ในปัจจุบั�?จะยังไม่ได้มีการห้าม ที่ครอบคลุมผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ที่รวมถึงพลาสติกชีวภาพ ผลิตภัณฑ์ที่สามารถย่อยสละลายได้ทางชีวภาพ และผลิตภัณฑ์ย่อยสลายได�?/p> Solinatra บริษัทผลิตพลาสติกที่ย่อยสลายทางชีวภา�?และย่อยสลายได้ ซึ่งมีฐานการผลิตตั้งอยู่ ที�?Horsham St Faith เป็นหนึ่งในบริษัทที่จะได้รับผลกระทบหากมาตรการนี้ถูกบังคับใช�?โดยจะไม่สามารถดำเนินการผลิตในสหราชอาณาจักรได้อีกต่อไป แม้ผลิตภัณฑ์ของพวกเขา ซึ่งรวมถึงช้อนส้อม แล�?Coffee pods จะสามารถย่อยสลายได้ทั้งหมด ภายในระยะเวล�?45 วั�?และไม่ได้ผลิตจากวัสดุที่ได้รับจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเลย
ทั้งนี�?สหพันธ์ธุรกิจขนาดเล็�?(FSB) ไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่า�?และกำลังเรียกร้องให้รัฐบาลได้มีการทบทวน การรวมวัสดุชีวภาพในการห้ามครั้งนี้

ที่ม�? plastikmedia.co.ukThe post UK เอาจริง แบนพลาส��ิกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง แม้แต่ Bioplastic ก็ไม่รอด first appeared on Green Network.