Green Travel | Green Network

Green Network — Thu, 14 Dec 2023 06:55:26 +0000

สีสันแห่งไม้ดอกเมืองหนาว งดงามวัฒนธรรมเมืองเหนือ เที่ย�?/strong>รักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในเทศกาลชมสวน 2566 “แอ่วสุขใจ..I wanna be (e)�?

เทศกาลชมสวน (Flora Festival) นับเป็นเทศกาลยิ่งใหญ่ประจำปีที่นักท่องเที่ยวต่างให้การรอคอยที่จะได้ชื่นชมความงามของไม้ดอกเมืองหนาวนานาพรรณจากเกษตรกรบนพื้นที่สูง สำหรับเทศกาลชมสวนปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “แอ่วสุขใจ..I wanna be (e)�?ระหว่างวันที�?1 ธันวาค�?2566 �?29 กุมภาพันธ์ 2567 เวล�?08.00 �?18.00 �? �?อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยื�?/p>
โดยม�?“ผึ้�?หรือ Bee�?นักผสมเกสรเป็�?Mascot นำทางนักท่องเที่ยวชมสวนดอกไม้ที่สวยงา�?อุดมสมบูรณ�?พรรณไม้นานาชนิดและให้นักท่องเที่ยวมีความสุขจากใช้เวลาร่วมกันกับกลุ่มเพื่อ�?ครอบครัว หรือคนรั�?ผ่านองค์ความรู้ด้านโครงการตามแนวพระราชดำริ โครงการหลว�?และการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยื�?ความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อมที่ได้ต่อยอดและรวบรวมความหลากหลายทางชีวภาพทั้งทรัพยากรพรรณไม้นานาชนิดมากถึง 18,000 รายการ
รวมทั้งกิจกรรมด้านศิลปะและวัฒนธรรม กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ เป็นต้น อีกทั้�?นักท่องเที่ยวยังจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้อุทยานหลวงราชพฤกษ์เป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณภาพและเป็นพื้นที่ต้นแบบการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์อย่างยั่งยืนในปี 2570

ภายในงานนักท่องเที่ย�?/strong>จะได้ชมความสวยงามของไม้ดอกเมืองหนาวนานาพรรณนับล้านดอกที่พร้อมใจกันเบ่งบานงดงามเต็มสวน อาทิ เจอราเนียม ฟอร์เก็ตมีน็อ�?บีโกเนี�?พิทูเนี�?ซัลเวี�?แพนซ�?คัสตี้มิลเลอร์ เดซี่ เทียนนิวกีน�?ฯล�?เรือนกล้วยไม้ : ชมความสวยงาม ความหลากหลายของกล้วยไม้ทั้งพันธุ์แท้และพันธุ์ลูกผสมในบรรยากาศที่ร่มรื่นเย็นสบา�?เรือนไม้ดอก : ชมไม้ดอกเมืองหนาว สีสันสวยงามที่เป็นการส่งเสริมอาชีพของเกษตรกรบนพื้นที่สูง เรือนร่มไม้ : สวรรค์แห่งพรรณไม้ร่มชื้น ชมซุ้มไม้ใบที่สวยงาม แม้จะไม่มีสีสันแต่มองแล้วให้ความร่มรื่นชื่นใ�?strong> ดอกกุหลา�?/strong> : ชมความงามของกุหลาบกว่า 220 สายพันธุ�?รวมทั้งกิจกรรมที่ให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วม เน้นปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม และนำแนวคิดที่ได้ไปสานต่อและใช้ในชีวิตประจำวันต่อไ�?/p>

ตลอดการจัดงา�?3 เดือน ตั้งแต่เดือนธันวาค�?2566 �?กุมภาพันธ์ 2567 มีหลาย ไฮไลท์ในงานที่ไม่ควรพลาด ประกอบด้วย พรรณไม้เด่�?ได้แก่ 1. ไม้ดอกเมืองหนาวจากเกษตรกรบนพื้นที่สูง �?สวนลานต้อนรั�?2. ทุ่งดอกผีเสื้อ (เริ่มบานช่วงปลา�?เดือน �?�?66 �?สวนพรมบุปผ�? 3. อุโมงค์พวงคราม 4. กล้วยไม้นานาพันธุ์ทั้งพันธุ์แท้และพันธุ์ลูกผสม �?เรือนกล้วยไม้ 5. เรือนไม้ดอก 6. ฟอร์เก็ตมีน็อตคละสี �?สวนประเทศเนเธอร์แลนด�?/p>

นิทรรศกา�?/strong>/ องค์ความรู�?/strong> ได้แก่ 1. Bee Home และกล่ององค์ความรู้เกี่ยวกับผึ้ง ณ�?สวนลานต้อนรั�?2. สัปดาห์นิทรรศการ คิดเพื่อโล�?ทำเพื่อเรา �?ห้องสักทอง มีกิจกรรมทุกวั�?ได้แก่ 1. พิกัดมุมถ่ายรูปประจำเดือน ร่วมกับกิจกรรมแช�?& แชร์ 2. กิจกรรมประกวดภาพถ่าย (Photo Contest)

ทุกวันศุกร�?/strong> พบกั�?1. กิจกรรมเดินสวนกับคนสวน (กุหลาบ/ กล้วยไม้/ ไม้ดอกเมืองหนาว/ กิจกรร�?DIY) , 2. กิจกรรมปลูกรัก ผักอินทรีย�?ร่วมกับบัตรสมาชิกรายปี �?สวนเกษตรทฤษฎีใหม�? กิจกรรมปลูกต้นไม�?/p>

ทุกวันเสาร์-อาทิตย์และนักขัตฤกษ์ กิจกรร�?Workshop �?ลานส้มสุ�?ได้แก่ 1. กิจกรรมแยกขย�? 2.DIY จากเศษขยะพลาสติก เช่�?พวกกุญแจ ตุ้มหูและที่คั่นหนังสื�?3. เรซิ่นจากดอกไม้และวัสดุธรรมชาติ 4. กิจกรรมวาดภาพต้นไม้ในฝัน วาดรูปต้นไม้หรือสิ่งมีชีวิตที่ชอ�?ลงบนผืนผ้า 5. เทียนหอมจากขี้ผึ้งและดอกไม้ 6. เพนท์ขวดแก้วเป็นแจกัน 7. FLOWER GEL CANDLE 8. Beeswax Wrap
เดือนมกราคม 2567 พบกับกิจกรรม 1.วันเด็กแห่งชาต�?13 �?�?2567 บริเวณ: ลานส้มสุ�?2.กิจกรรมเสวนา: โลกร้อนแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับพลังทดแท�?และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในช่วงวันหยุดยาว
เดือนกุมภาพันธ์ 2567 มีไฮไลท์เด่�?ได้แก่ กิจกรรมวันวาเลน์ไทน์ระหว่างวันที่ 12-14 กุมภาพันธ์ 2567 สัมผัสบรรยากาศแห่งรั�?/ ช้อปกล้าพันธุ์กุหลาบ / สดชื่นกับเครื่องดื่มจา�?HRDI Café / Workshop สำหรับทุกครอบครั�?/p>The post เทศกาลชมสวน 2566 ภายใต้แนวคิด “แอ่��สุขใจ I wanna be (e)�?1 ธันวาค�?2566 �?29 กุมภาพันธ์ 2567 �?อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ first appeared on Green Network.

Green Travel | Green Network

Green Network — Wed, 08 Feb 2023 07:11:34 +0000

ชาวกรุงเทพ�?เตรียมตัวให้พร้อม มาร่วมกระชับมิตร ให�?‘เมือง�?เป็�?‘มิตร�?มากกว่าที่เคย ไปกับเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพ�?2566 หรือ Bangkok Design Week 2023 ปลุกพลังสร้างสรรค์เที่ย�?9 ย่าน 9 วัน�?ทั่วกรุงเทพ�?ระหว่างวันที�?4 – 12 กุมภาพันธ์ 2566 ตั้งแต่เวล�?11.00 �? – 22.00 �?

Bangkok Design Week 2023 ครั้งนี้จัดยิ่งใหญ่กว่าเดิมกว่�?530 โปรแกร�?ที่รวบรวมทั้งงานดีไซน์ กิจกรรมสร้างสรรค�?ส่งต่อแรงบันดาลใ�?จุดประกายไอเดียต่อยอดธุรกิ�?พร้อมเปิดพื้นที่ลับสัมผัสเสน่ห์ของกรุงเทพ�?จัดโดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค�?(องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมกั�?กรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่ายหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สถาบันการศึกษา องค์กรระหว่างประเทศ และเครือข่ายย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค�?เพื่อต้อนรับการเปิดเมืองอย่างเป็นทางการของกรุงเทพมหานคร

สำหรับแนวคิดปีนี�?เทศกาลฯ ตีโจทย์ของงานออกแบ�?ที่ต้องสร้างเมืองที่เป็นมิตรต่อคน และสร้างคนที่เป็นมิตรต่อเมือง และทำกรุงเทพ�?ให้กลายเป็นเมืองที�?“urban‘NICE’zation เมือง – มิตร – ดี�?ยิ่งขึ้น ผ่าน 6 มิติ ได้แก่ มิตรที่ดีต่อสิ่งแวดล้อ�?มิตรที่ดีต่อคนเดินทาง มิตรที่ดีต่อวัฒนธรรม มิตรที่ดีต่อธุรกิจ มิตรที่ดีต่อชุมช�?แล�?strong>มิตรที่ดีต่อความหลากหลาย พร้อมทั้งเป็นแพลตฟอร์มสนับสนุนการรวมตัวของกลุ่มนักออกแบบ นักสร้างสรรค�?และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สาขาต่า�?�?แสดงศักยภาพผ่านงานดีไซน์ พร้อมให้คนในชุมชนได้มีส่วนร่วมกันคิด ค้�?สร้างโมเดลงานออกแบบที่ช่วยพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของทุก �?คน ไปพร้อมกัน โดยการดึงสินทรัพย์ทางวัฒนธรร�?และอัตลักษณ์วิถีชุมชนมาเป็นต้นทุนยกระดับพื้นที่นำร่องทั้�?9 ย่าน สู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ระดับโลก ได้แก่ 1) เจริญกรุง �?ตลาดน้อย 2) เยาวราช 3) สามย่า�?– สยาม 4) อารีย์ – ประดิพัทธ์ 5) พระนคร / ปากคลองตลา�?/ นางเลิ้ง 6) วงเวียนใหญ่ – ตลาดพล�?/ คลองสาน�?7) บางโพ�?8) พร้อมพงษ์�?แล�?) เกษตร�?และพื้นที่อื่น �?/strong>

แนะน�?9 ย่านหลักของเทศกาลฯ

1.ย่านเจริญกรุง – ตลาดน้อย เปิดพื้นที่ ‘ต้นแบบย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์�?/strong> ของประเทศไท�?ชวนนักท่องเที่ยวเดินชมงานดีไซน์บนถนนสายแรกของประเทศไท�?กว่า 200 โปรแกรมสร้างสรรค์�?จากนั้นลัดเลาะเข้าไปในชุมชนเก่�?‘ตลาดน้อย�?ชมผลงานจากนักสร้างสรรค์ทั่ว��ารทิ�?ที่ตบเท้าเข้ามาจัดงานในย่านนี้

Seatscape & Beyond by One Bangkok ที่นั่งสาธารณะที่มอบประสบการณ์ใหม่แก่คนเมือง การนำเสนอผลงานรอบสุดท้ายโด�?10 ทีมผู้ชนะในโครงการ One Bangkok Urban Furniture Competition 2022 ‘Seatscape & Beyond�?ที่ออกแบบเฟอร์นิเจอร์สาธารณ�?เพื่อยกระดับบริบทแวดล้อมของพื้นที่นั้�?�?/li>
Circular Café โด�?QUALY X HARV X LMLM คาเฟ่ที่มีแนวคิ�?Zero Waste ที่ชวนคนเมืองมาร่วมทดลองเป็นผู้ผลิตและบริโภคที่รับผิดชอบอย่างสร้างสรรค์ ร่วมบริหารจัดการทรัพยากรและขยะให้เป็นศูนย์ ผ่านการเรียนรู้ที่สนุกสนานในรูปแบบคาเฟ่จำลอ�?ตั้งแต่การตกแต่งพื้นที่และออกแบบเฟอร์นิเจอร์ต่าง �?ด้วยวัสดุรีไซเคิ�?การลดใช้พลังงานและทรัพยากรในการจัดกา�?ไปจนถึงการนำเศษวัสดุเหลือใช้กลับมาใช้ประโยชน์ในร้านคาเฟ่ สร้างสรรค์ออกแบบโด�?QUALY ร่วมกั�?HARV แล�?LMLM

สถานที�? TCDC กรุงเทพ�? ชั้น 5

Re-Vendor เจริญกรุง 32 โด�?CEA ร่วมกั�?Cloud-Floor , CommDe/ID CU ,KU แล�?Street Vendors CRK32 ร่วมกันออกแบบเชิงทดลองของร้านค้าแผงลอย ในซอยเจริญกรุง 32 เพื่อนำเสนอสตรีทฟู้ดริมทางในรูปแบบใหม่ให้เป็นมิตรกับเมืองทั้งในด้านสิ่งแวดล้อ�?ธุรกิจ ชุมช�?และผู้คนที่มีความหลากหลายในเมือง

สถานที�? ซอยเจริญกรุง 32

Timber Interface โด�?Nikken Sekkei Thailand ‘มหานครที่สร้างจากไม้�?ที่นำเสนอบรรยากาศของเมืองแห่งอนาคตที่มีทั้งเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ�?(AI) หุ่นยนต์ นวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ (Smart City) และแนวคิดเมืองยั่งยื�?ที่มีไม้เป็นวัสดุก่อสร้างหลักที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อ�?ร่มรื่นไปด้วยธรรมชาต�?และส่งเสริมสภาวะสบายกายและสบายใ�?/li>
สถานที�? ศาลเจ้าโรงเกือก
2.ย่านเยาวราช ตั้งอยู่บนพื้นที่ไชน่าทาวน�?– ย่านเยาวราช ทรงวาด สำเพ็�?สู่การสร้างสรรค์ให้ย่านแห่งนี้ไม่มีวันหลับไหลและกลายเป็นพื้นที่ในการขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบ�?UNESCO – Bangkok City of Design ภายใต้โปรเจ็กต�?strong>“City Trooper X Academic Program�?/strong> เปิดประสบการณ์ใหม่ในย่านเก่าที่ไม่ได้มีดีแค่สตรีทฟู้ดระดับโลก แต่ยังมีความเข้มข้นทางวัฒนธรรมจีนหลากหลายยุคสมั�?จากความร่วมมือของนักพัฒนาเมือง สถาบันการศึกษา และกลุ่มนักวิชาการ ร่วมค้นหาความต้องการของเมือง

The New Bus Stop Design ภายใต้โปรเจกต์ Academic Program: Bangkok City Trooper โดยการหยิบอัตลักษณ์จีนที่เป็นวัฒนธรรมหลักของพื้นที่มาออกแบบป้ายรถเมล์รูปแบบใหม�?จำนว�?5 ป้าย จากกลุ่ม MAYDAY! ในเขตสัมพันธวงศ์ให้ใช้งานป้ายง่ายขึ้น ป้ายนี้จะติดตั้งถาวรใช้งานต่อไปหลังจบเทศกาลฯ

สถานที�? 1. ป้ายเทียนฟ้ามูลนิธิ / 2. ป้ายแยกเฉลิมบุรี / 3. ป้ายตลาดเก่าเยาวราช/ 4. ป้ายแอมไชน่าทาวน�?/ 5. ป้ายเสือป่าเซนเตอร์

You do me I do you ออกแบบโด�?D&O association รังสรรค์ผลงานที่มีการใช้วัสดุที่ไม่คุ้นเคยด้วยการแลกเปลี่ยนวัสดุระหว่างสตูดิโ�?เช่�?เหล็กไปสู่โรงงานหวา�?โดยนําหลักการและสไตล์การออกแบบเฉพาะตัวของศิลปินมาปรับใช้และสร้างสรรค์ผลงานใหม�?/li>
สถานที�?: ชุมชนเลื่อนฤทธิ์
3.ย่านสามย่า�?– สยาม ศูนย์รวมแหล่งการเรียนรู้และศูนย์กลางธุรกิจที่สำคัญของกรุงเทพ�?และสนามทดลองของคนสร้างสรรค์และผู้คนที่ค้นหาสิ่งใหม�?�?มาระดมไอเดียนอกกรอบในพื้นที่�?เช่�?Art4C House of Passa Saratta CASETiFY แล�?BKKDW2023 ออกแบบโด�?CASETiFY แบรนด์ไลฟ์สไตล์และอุปกรณ์เสริมเทคโนโลยีระดับโลก สร้างคอลเลคชั่น“เคสโทรศัพท��?ที่สะท้อนบริบทกรุงเทพ�?โดยศิลปินไทย 10 ท่าน บอกเล่าเรื่องราวของกรุ��เทพ�?ให้พกพาไปได้ทุกที่

4.ย่านพระนคร / ปากคลองตลา�?/ นางเลิ้ง ย่านประวัติศาสตร�?เมืองเก่าที่มีความคลาสสิกสะท้อนความเจริญของยุคสมัย พร้อมวัฒนธรรมที่มีความโดดเด่นและนำมาต่อยอดอย่างสร้างสรรค์เพื่อการอนุรักษ�?สู่บริบทใหม่ของกรุงเทพ�?ตามจุดต่าง �?เช่�?มหาวิทยาลัยศิลปากร (วังท่าพ��? โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิ�?ประปาแม้นศรี ลานคนเมือง ไปรษณียาคา�?ปากคลองตลา�?และบ้านนางเลิ้ง เป็นต้น

เล่�?/strong> : สร้า�?: เมือง ออกแบบโด�?Plan Toys การจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เด็กในเมืองมีอิสระในการเล่�?สร้างความผูกพันระหว่างเพื่อ�?ผู้ปกครอ�?คร�?ผู้ใหญ่ในชุมชน ภายใต้บริบทของชุมช�?/li>
สถานที�?: ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร, ลานคนเมือง ย่านพระนคร

32°F #น้ำแข็งละลายเพราะโลกร้อ�?หัวใจไหลอ่อนเพราะโรครัก ออกแบบโด�?strong> FOS design studio ค้นพบเสน่ห์ของอาคารประวัติศาสตร์ที่ข้ามผ่านกาลเวลาและได้กลายเป็นพื้นที่ปิดในปัจจุบั�?เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในย่านเก่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ โดยจัดแสดงการออกแบบแสงสว่างทางสถาปัตยกรร�?�?ประปาแม้นศรี กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Unfolding Bangkok – Living Old Building

สถานที�?: ประปาแม้นศรี, ย่านพระนคร

Tango Trio | Pop-up Blossom: Flower-Inspired Installation ออกแบบโด�?PHKA STUDIO X HUMANS OF FLOWER MARKET BY ARCH SU สร้างประสบการณ์ชมย่านดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพ�?ผ่านผลงานศิลปะที่ได้แรงบันดาลใจมาจากดอกไม้ กระจัดกระจายตามจุดต่าง �?ของย่านปากคลองตลาด ได้แก่ 1. แยกถนนจักรเพชรตัดกับถนนบ้านหม้อ 2. ชั้น 1 กลางตลาดยอดพิมาน แล�?3. พื้นที่ใต้สะพานพระปกเกล้า ข้างไปรสนียาคา�?/li>
SATORIAL ออกแบบโด�?SENSE OF NANG LOENG กิจกรรมอนุรักษณ์และส่งต่อการพัฒนาพื้นที่ในย่านนางเลิ้ง ให้เป็นแหล่งวัฒนธรรมร่วมสมัยเพื่อสร้างพื้นที่และประสบการณ์ใหม่ผ่านเสียงดนตร�?พร้อ�?Projection Mapping ท่ามกลางบรรยากาศชุมชนดั้งเดิมซึ่งเป็นแหล่งพำนักของศิลปินนักดนตรีไทยและนางร�?/li>
สถานที�?: The Umber Housepresso & More, ย่านนางเลิ้ง
5.ย่านอารีย์ – ประดิพัทธ์ ย่านฮิปแห่งใหม่โดยกลุ่�?AriAround ร่วมกั�?ภาคีเครือข่ายนักสร้างสรรค�?จั�?กิจกรร�?“เปิดบ้า�?เปิดย่า�?เปิดเมือง�?/strong> ให้ชมสตูดิโอ อาคารบ้านเรือน รวมถึงร้านค้�?เป็นย่านสร้างสรรค์แห่งการเรียนรู�?ส่งเสริมธุรกิจในพื้นที�?เช่�?โครงกา�?33 space สวนซอยประดิพัทธ์ 17 และสวนกรมประชาสัมพันธ์ เป็นต้น

สะพานควา�?วาไรตี�?โด�?SMM การนำเสนอความคิด และชวนให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์อย่างเป็นรูปธรรมของย่านอารีย�?– ประดิพัทธ์ ผ่านนิทรรศการสื่อผสมจากแรงบันดาลใจจากพื้นที่ เพื่อให้ประสบการณ์และมุมมองใหม่ต่อผู้คนและสะพานควายอีกครั้ง

สวนสาธารณะสร้างสรรค์ ออกแบบโด�?AriAround เป็นการจัดกิจกรรมสร้างพื้นที่สีเขียวในเมือง ในการขยายมุมมองความสัมพันธ์ของผู้คนกับพื้นที่สีเขียว

สถานที�?: สวนสาธารณะ กรมประชาสัมพันธ์
6.ย่านพร้อมพงษ�?/strong> เช็คอินยามค่ำที่พร้อมพงษ์ ย่านเศรษฐกิจใจกลางเมือง ซอยสุขุมวิ�?26 โดยกลุ่ม 49 & FRIENDS เป็นการรวมตัวของนักสร้างสรรค์ ยกระดับให้ย่านมีการเติบโตทางเศรษฐกิ�?เป็นมิตรต่อการอยู่อาศัย และกลายเป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวห้ามพลา�?/p>

49 & FRIENDS: LUMINOUS 26 พัฒนาสิ่งแวดล้อมใหม่โด�?A49 / A49HD ในซอยสุขุมวิ�?26 ออกแบบระบบส่องสว่างใหม�?เพิ่มความปลอดภัยของคนเดินถนนและรถยนต์ในยามค่ำคืน

7.ย่านบางโ�?/strong> สานต่อ ‘ถนนสายไม้บางโ�?ตํานานที่มีชีวิต�?/strong> พื้นที่วัฒนธรร�?แหล่งเรียนรู�?ความคิดสร้างสรรค์จากผู้ผลิตงานไม้ในย่านสู่กา��สร้างมูลค่าเพิ่ม หาซื้องานไม้ดีไซน์เก๋ราคาพิเศษในรอ�?15 ปี งานไม้ งานเฟอร์นิเจอร์ งานแกะสลัก ไม้แปรรู�?ของตกแต่งประเภทต่าง �?รับส่ว��ลดสูงสุดกว่�?50%

เดินในซอยไม้เข้าพาวิลเลี่ย�?The Life of Wood โด�?Bangpho Wood Street ที่สร้างโคมไม้แปรรูป ด้วยแนวคิด ‘FILL THE GAP – เติมเต็�?ต่อยอดยุคสมั�?ต่อยอดอาชี�?#8217; มอบประสบการณ์แก่ผู้เข้าช�?ให้ถนนสายไม้เป็นถนนสร้างสรรค์ที่จะกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่�?/li>
สถานที�?: ศาลเจ้าแม่ทับทิม

เดินช้อปและพักเหนื่อยได้ที่ Pocket Park สวนสาธารณะขนาดเล็�?จากแนวคิ�?Balance in Space โด�?strong> Bangpho Wood Street ปรับพื้นที่จอดรถเป็นพื้นที่สาธารณ�?ด้วยวัสดุเหลือใช้ภายในย่านมาต่อยอดด้วยงานฝีมือของคนในย่า�?/li>

สถานที�?: บริษัท ทวีกิจ ผลิตภัณฑ์ไม้ จำกั�?/p>
8.ย่านวงเวียนใหญ่ �?ตลาดพล�?/ คลองสา�?/strong> พาเที่ยวย่านกรุงเก่าธนบุร�?มุ่งหน้าวงเวียนใหญ่ �?ตลาดพล�?/ คลองสา�?บนถนนสายวัฒนธรรม ความเชื่อ อาหา�?และศิลปกรร�?ในรูปแบบใหม่ โด�?SC Asset ร่วมกั�?กลุ่มยังธน สถา��บันการศึกษ�?กลุ่มนักสร้างสรรค์ กลุ่มผู้ประกอบกา�?ชุมชนคนในพื้นที่ และย่านคลองสาน ดึงสินทรัพย์สร้างมูลค่าเพิ่มมานำเสนอในการออกแบบใหม่ที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ด้วยกิมมิคนั่งเรือเที่ยวตามสไตล�?กลุ่�?SUP X Klong San และไอคอนสยาม

งานถลกหนังที่ไม่ต้องกลัวหนังถลอก แค่เข้าไปสัมผัสจัดการออกแบบให้เข้ากับที่อยู่อาศัยที�?“THE MAKER” ซอยกรุงธนบุร�?: ย่านเจริญรั�?โด�?SC Asset ออกแบบผลิตภัณฑ�?จัดวางในพื้นทห้องตัวอย่างของ The Reference Condominium ที่แสดงถึงความทรงจำที่สื่อถึงบริบทพื้นที�?/li>

9.ย่านเกษตร โปรแกรมสายเขียวย่านเกษตร ด้วยแนวคิด ‘GREEN LIVING กรีนดีอยู่ดี�?ไม่เพียงเที่ยวงานเกษตรแฟร์ แต่ยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์กช็อปที่ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อ�?เช่�?การเวิร์กช็อปมัดผ้าจากสีธรรมชาติ การตัดเย็บผ้าไม่ให้เหลือเศษผ้�?ตลอดจนข้ามฟากเข้าตลาดอมรพันธุ์และเข้าร่วมกิจกรรมการจัดการของเสี�?/p>

กิจกรรมเวิร์กช็อ�?‘การจัดการขยะและของเสียจากตลาดสดรถเข็นขายอาหาร�?/strong> จัดร่วมกันระหว่า�?คณะวิศวกรรมศาสตร�?มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แล�?J Market ผู้ดูแลพื้นที่ตลาดอมรพันธุ�?เพื่อสร้างความตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมและปรับปรุงระบบการจัดการขยะให้ดียิ่งขึ้�?/li>

The post งา�?Bangkok Design Week 2023 บนแนวคิด “เมือง �?มิตร �?ดี”�?ผ่าน 6 มิติ ยกระดั�?9 ย่านทั่วกรุงเทพ�?สู่การเ��็นเมืองสร้างสรรค์ระดับโลก first appeared on Green Network.

Green Travel | Green Network

Green Network — Thu, 22 Sep 2022 08:06:12 +0000

“เราเที่ยวด้วยกัน” โครงการที่รัฐบาลจัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ย�?โดยกระตุ้นให้ประชาชนเกิดการใช้จ่ายผ่านการท่องเที่ยวภายในประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแร�?และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อ�?ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ธุรกิจการบิน เพื่อช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างงาน รวมถึงช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในองค์รว�?/strong>

ปัจจุบันโครงกา�?“เราเที่ยวด้วยกัน” ดำเนินการมาถึงเฟสที�?4 และได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนมาอย่างต่อเนื่อ�?โดยผลการดำเนินโครงการดังกล่าวจะนำไปสู่การขับเคลื่อนสภาวะการบริโภคและการลงทุนให้กลับเข้าสู่ระดับปกติได้โดยเร็�?เพื่อร่วมกันพลิกฟื้นการเติบโตของเศรษฐกิ�?สังค�?และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยให้กลับมาดีกว่าเดิมอย่างยั่งยื�?/p>
นอกจากนี�?การขับเคลื่อนโครงกา�?“เราเที่ยวด้วยกัน�?จะนำไปสู่การต่อยอดแนวคิดการท่องเที่ยวสีเขียว (Green Tourism) เพื่อสร้างการท่องเที่ยวที่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่�?เกิดการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในวงกว้า�?และสร้างความยั่งยืนในมิติด้านสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง โดยในปัจจุบันเวทีเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum: WEF) ได้มีการจัดทำรายงานดัชนีการพัฒนาการท่องเที่ย�?(Travel and Tourism Development Index: TTDI) เพื่อสำรวจการพัฒนาการท่องเที่ยวของนานาประเทศทั่วโล�?และจัดอันดับเพื่อให้เกิดการแข่งขันซึ่งส่งผลให้เกิดการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี�?แนวคิด Green Tourism จะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ค่าดัชน�?TTDI ของประเทศไทยเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำที่ควบคู่ไปกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างสมดุ�?และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนอย่างยั่งยื�?/p>

โครงกา�?“เราเที่ยวด้วยกัน�?แสดงถึงการร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียวของประชาชนชาวไทยในยามวิกฤต โดยผู้ท่องเที่ยวออกค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งและรัฐบาลออกอีกส่วนหนึ่�?ซึ่งช่วยประคับประคองอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและผู้คนที่เกี่ยวข้องที่ได้รับผลกระทบอย่างมากในช่วงวิกฤตโควิ�?19 ถึงแม้ว่าวันนี้เราจะเปิดประเทศ มีนักท่องเที่ยวทยอยเพิ่มขึ้นมาเป็นลำดับแล้ว การนำเสนอคลิปวีดีโอนี้เพื่อเป็นภาพจำของความรู้สึกที่เราคนไทยจะไม่ลืมวันที่เราได้ช่วยกันยามยากอย่างอย่างไร
The post โครงกา�?“เราเที่ยวด้วยกัน�?Better Thailand เที่ยวไทย ช่วยไท�?ไปต่อด้วยกัน first appeared on Green Network.

Green Travel | Green Network

Green Network — Tue, 13 Sep 2022 05:22:15 +0000

องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยื�?(อพ�?)จับมือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรร�?(สกสว.) ประสานภาคีเครือข่ายและชุมชนคุ้งบางกะเจ้�?ประกาศความสำเร็จโครงการพัฒนาพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนมาตรฐานสากล ชูศักยภา�?6 เส้นทางท่องเที่ยวจากงานวิจัยเชิงลึก พัฒนากิจกรรมท่องเที่ยวสีเขียว ต้นแบบ BCG Model ขยายผลสู่การบริหารจัดการและคัดแยกขยะในชุมชน�?สร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์�?หวังปักหมุดเทียบชั้น Green Destination Top 100 และการประกาศเป็นพื้นที่พิเศษในอนาค�?/strong>

วัชร�?ชูรักษ�?/span> ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยื�?หรือ อพ�?/strong>. เปิดเผยว่า�?อพ�?ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรร�?(สกสว.) และภาคีเครือข่าย ภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชนในพื้นที่ดำเนินโครงการพัฒ��าพื้นที่คุ้งบางกระเจ้�?สู่การเป็นแ��ล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนมาตรฐานสากล โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจา�?สกสว. ภายใต้โครงการดังกล่า�?อพ�? แล�?สกสว. ได้ร่วมกันวิจัยและพัฒน�?ยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนสู่ตลาดท่องเที่ยวคุณภาพสูง ในการขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนจากระดับชุมชนสู่การออกแบบเส้นทางการท่องเที่ยวโดยชุมช�?รว�?6 เส้นทาง ใน 6 ตำบล ด้วยการสร้างจุดเด่�?ดึงอัตลักษณ์ของแต่ละชุมชนมาต่อยอดเป็นจุดขายสู่การเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวคุณภาพสูง
ทั้งนี�?อพ�?ได้นำมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมช�?หรือ CBT Thailand มาใช้ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการและการออกแบบเส้นทาง การออกแบบผลิตภัณฑ์และการทำตลาดการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ มีเป้าหมายสูงสุดคือยกระดับให้คุ้งบางกะเจ้าเป็นพื้นที่ต้นแบบการท่องเที่ยวอย่างยั่งยื�?เชิงวิถีชีวิตและเชิงนิเวศ ตามหลักเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก หรือ GSTC พร้อมผลักดันให้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของ อพ�? ในลำดับต่อไป รวมถึงการผลักดันให้เข้าสู่การได้รับเลือกเป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก หรือ Green Destinations Top 100 ที่มีระบบการบริหารจัดการที่สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนโยบายของรัฐบาลภายใต้ BCG Model (Bio-Circular-Green Economic)

“นอกจากการพัฒนายกระดับในส่วนของกิจกรรมและเส้นทางการท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐานแล้ว งานวิจัยยังให้ความสำคัญกับเรื่องการบริหารจัดการขยะในพื้นที่ เพราะการท่องเที่ยวเป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดขยะเช่นกัน ดังนั้นจึงมีการศึกษาและอบรมให้ชุมชนได้เรียนรู้ถึงกระบวนการคัดแยกขยะ และการรีไซเคิ�?เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และสร้างมูลค่าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม�?ให้สอดรับกับหลักกา�?Circular Economy”�?วัชรี�?กล่า�?/p>
สำหรับ6 เส้นทาง ที่ได้รับการพัฒน�?ได้แก่ 1.เส้นทางสา�?Cool ไปกับพื้นที่สีเขียวเที่ยวคุ้งบางกระเจ้า�?2.เส้นทางสายชิมลิ้มรสหลากหลาย สไตล์คุ้งบางกระเจ้�?3.เส้นทางสายธรรมะศรัทธาที่คุ้งบางกระเจ้�?4.เส้นทางสา�?Learn&Play สัมผัสเสน่ห์คุ้งบางกระเจ้�?5.เส้นทางสายสุขภาพดีที่คุ้งบางกระเจ้�?6. เส้นทางสายตามรอยศาสตร์พระราชาแห่งคุ้งบางกระเจ้า�?นอกจากนั้นยังได้กำหนดเทศกาลที่คงอัตลักษณ์และวิถีของชุมชนบางกระเจ้าใ�?2 เทศกา�?ประจำป�?ได้แก่ เทศกาลพิธีแห่หงส์-ธงตะขา�?แล�?พิธีตักบาตรน้ำผึ้ง ซึ่งจัดขึ้นในวันที�?14 เมษายนของทุกป�?/p>
เส้นทางท่องเที่ยวทั้งหมด ได้ผ่านการวิจัยในเชิงคุณภาพและปริมาณ โดยการสำรวจกลุ่มนักท่องเที่ยวมาใช้บริการจำนว�?400 คน ที่มีการศึกษาพฤติกรร�?และความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการในพื้นที�?ทำให้เข้าใจความต้องการของนักท่องเที่ยวในปัจจุบันมากขึ้น ว่าต้องการสัมผัสประสบการณ์ทางการท่องเที่ยวกับชุมชนท้องถิ่นและลงมือทำกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค�?จึงให้ความสำคัญกับการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงลึกของมรดกภูมิปัญญา วัฒนธรรมพื้นที�?มาสู่การผลิตคู่มือสื่อความหมายสำหรับพื้นที�?รวมทั้งการกำหนดแผนพัฒนาท่องเที่ยวอย่างยั่งยื�?ที่ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของพหุภาคี และยังมีการนำนวัตกรรมด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหาร มีการยกระดับอาหารท้องถิ่นสู่การให้บริการนักท่องเที่ย�?เป็นการสร้างจุดขายและเพิ่มรายได้ให้กับชุมช�?/p>
นาวาอากาศเอก อธิคุณคงมี ผู้อำนวยกา�?องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยื�?(อพ�?)กล่าวว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้�?มาจากความร่วมมือของทุกภาคส่ว�?และการนำเกณฑ์การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมช�?หรือ CBT Thailand ขอ�?อพ�? เข้าไปพัฒนา อบรม ให้แก่ชุมช�?ทำให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ชุมชนในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าได้รับรางวัลและมาตรฐานต่างๆ เช่�?รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (กินร�? จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไท�?รางวัล MICE เพื่อชุมช�?ของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ สามารถสร้างการยอมรับจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อ�?โดยรูปแบบการท่องเที่ยวมีทั้�?One Day Trip และการท่องเที่ยวแบบพักแรมในโฮมสเตย์ของชุมช�?/p>
“ภายหลังรัฐบาลประกาศเปิดประเทศ สถานการณ์การท่องเที่ยวของประเทศไท�?เริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง�?และกำลังเข้าสู่ไฮซีซั่นในช่วงปลายปี อพ�? มั่นใจว่าพื้นที่คุ้งบางกระเจ้าจะเป็นอีกหนึ่งจุดหมายสำคั�?ที่มีศักยภาพรองรับนักท่องเที่ยวทั้งจากกรุงเทพ และจังหวัดใกล้เคียง เนื่องจากความหลากหลายของเส้นทางการท่องเที่ยวที่พร้อมให้บริการ” �?นาวาอากาศเอก อธิคุณ กล่า�?/p>
ปัจจุบัน อพ�? ได้ร่วมกับชุมชนเตรียมความพร้อมการให้บริการ ให้มีความสามารถในการรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวของพื้นที�?(Carrying Capacity) เพื่อการดูแ�?และให้บริการอย่างมีคุณภา�?บนฐานของความสมดุ�?ในการพัฒนาชุมชนในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิ�?สังคมและสิ่งแวดล้อม�?สอดคล้องกับนโยบายรัฐบา�?ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาต�?ฉบับที�?13 และได้นำโมเดลเศรษฐกิ�?BCG มาพัฒนาพื้นที่เพื่อสร้างความยั่งยืน โดยการนำวิทยาศาสตร�?นวัตกรรมเข้ามาส่งเสริม สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจชุมชน ในรูปแบบการเป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมช�?ที่มีความเข้มแข็งและยั่งยื�?/p>

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุภาวด�?โพธิยะรา�?/span> ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสผู้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรร�?(สกสว.)กล่าวว่า สกสว. ร่วมกั�?อพ�? ขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่คุ้งบางกระเจ้าสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนมาตรฐานสากล ถือเป็�?1 ใน 6 ของการพัฒนา�?OUR Khung Bang Kachao ภายใต้มูลนิธิชัยพัฒนา�?จึงเป็นที่มาของการสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวคุณภา�?และยกระดับสินค้าและบริการให้กับชุมชนและภาคีเครือข่ายในการพัฒนาพื้นที่คุ้งบางกระเจ้าสู่ความยั่งยื�?/p>
ความร่วมมือในครั้งนี�?เป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวให้กั�?6 ชุมช�?ได้แก่ ชุมชนบางกระเจ้า�?ชุมชนบางกระสอบ ชุมชนบางยอ ชุมชนทรงคนอง ชุมชนบางน้ำผึ้�?และชุมชนบางกอบัว ส่งผลให้ปัจจุบันเส้นทางท่องเที่ยวในคุ้งบางกะเจ้าได้รับการตอบรับจากกลุ่มนักท่องเที่ยวจำนวนมา�?ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น และกระจายอย่างทั่วถึงเป็นธรรมกับทุกฝ่า�?เกิดการฟื้นฟูอนุรักษ์วิถีชีวิ�?วัฒนธรรม และการดูแลด้านสิ่งแวดล้อ�?ทำให้พื้นที่แห่งนี้สามารถเป็นแหล่งผลิตโอโซนที่สำคัญใกล้เมือง ที่ยังคงอุดมความสมบูรณ์และยั่งยืนต่อไป

ชัยพจน�?จรูญพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปรากา�?/strong> กล่าวว่า จังหวัดสมุทรปราการเห็นความสำคัญของการดำเนินโครงการดังกล่าว จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษคุ้งบางกะเจ้�?ขึ้น โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธา�?และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครั�?เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคชุมช�?โดยมีภารกิจในการร่วมวางแผนยุทธศาสตร์การบริหารการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยื�?การกำกับ ติดตาม และประเมินผลโครงการให้เป็นไปตามหมุดหมายของแผน�?โดยมีเป้าหมายพัฒนาให้คุ้งบางกะเจ้าเป็นพื้นที่ต้นแบบแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยื�?ตามเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนมาตรฐานสากล ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน�?พันธกิ�?เป้าประสงค์ แผนงานและกลยุทธ์การพัฒนาของจังหวัดสมุทรปรากา�?และยังทำให้หน่วยงานภาคีเครือข่ายในจังหวัดได้เรียนรู้การพัฒนาจากผู้เชี่ยวชาญการท่องเที่ย�?ได้บูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเป็นเอกภา�?มีเป้าหมายเดียวกัน�?โดยจังหวัดยังสามารถนำองค์ความรู้ แนวทางการพัฒนาที่เกิดผลสัมฤทธิ์นี้ ไปขยายผลยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในจังหวั�?ทำให้การขับเคลื่อนการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดบรรลุวิสัยทัศน์ได้รวดเร็วขึ้น�?ทั้งนี้จังหวัดสมุทรปรากา�?พร้อมให้การสนับสนุนและหนุนเสริมงานวิจัยนี้อย่างเต็มที่เต็มกำลังตามบทบาทภารกิจที่มีอยู�?/p>
สำเนาว์ รัศมิทัศน์ ประธานชมรมเครือข่ายส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนคุ้งบางกะเจ้�?/strong> กล่าวว่า จากการเข้ามาพัฒนาขอ�?อพ�? แล�?สกสว. ที่เริ่มจากการประเมินศักยภาพของชุมชน จัดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยว�?จึงพบว่าชุมชนในคุ้งบางกะเจ้ามีฐานทุนทางทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรมที่สามารถสะท้อนอัตลักษณ์ของชุมชนทั้งในด้านการประกอบอาชีพ ทางการเกษตร และสามารถกำหนดเป็นเส้นทางกิจกรรมการท่องเที่ยวย้อนยุควิถีคลอง วิถีชีวิ�?ที่เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนอื่น�?ได้อย่างลงตั�?/p>
อพ�? ได้เข้ามาถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการเส้นทางท่องเที่ยวโดยชุมช�?ทั้งการพัฒนา นักสื่อความหมา�?การพัฒนาต่อยอดเป็นกิจกรรมประกอบอาหารพื้นถิ่�?การจัดจานอาหารในเมนูเมี่ยงกลีบบัวพริกเกลือ ซึ่งจะเป็นไฮไลท์ของชุมชนบางกอบั�?รวมถึงกิจกรรมทำผ้ามัดย้อมจากวัสดุธรรมชาต�?เช่�?เปลือกลูกจา�?ใบหูกวาง โดยนำมาต้มเพื่อให้ได้สีธรรมชาติ รวมถึงการจัดกิจกรรมล่องเรือชมวิถีคลอ�?ที่จะพานักท่องเที่ยวพายเรื�?เรียนรู้ธรรมชาต�?พันธุ์ไม้หลากหลา�?เช่�?จา�?ลำพู�?ลำแพ จึงตอบได้ว่า แนวทางการทำงานขอ�?อพ�? สามารถทำให้คุณภาพชีวิตของคนในคุ้งบางกะเจ้าดีขึ้นในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิ�?สังค�?สิ่งแวดล้อ�?และนำไปสู่ความยั่งยืนต่อไปThe post อพ�? �?สกสว. จับมือภาคีชู “คุ้งบางกะเจ้า�?แหล่งท่องเที่ยวมาตรฐานสากล พัฒนากิจกรรมสีเขียว 6 เส้นทาง สู่ต้นแบ�?BCG first appeared on Green Network.

Green Travel | Green Network

Green Network — Tue, 06 Sep 2022 02:36:32 +0000

อพ�? ชุมชนบ้านถ้ำเสื�?จังหวัดเพชรบุร�?ชูต้นแบบความสำเร็�?“ชุมชนท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ�?ต้นแม่น้ำเพชรบุร�?ที่ใช้หลักบริหารจัดการการท่องเที่ย�?ตามแนวทา�?BCG Model ชวนนักท่องเที่ยวสัมผัสกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศกลางผืนป่า ที่ใช้ฐานทรัพยากรธรรมชาต�?สู่การพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยื�?/strong>

นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยื�?/strong> หรือ อพ�? เปิดเผยว่�?จากความสำเร็จของแผนขับเคลื่อนการผลักดันเพื่อการท่องเที่ย�?ที�?อพ�? เข้าไปยกระดับชุมช�?ที่มีการต่อยอด สร้างคุณค่าจากทุนวัฒนธรร�?วิถีชีวิ�?ภูมิปัญญาท้องถิ่�?และทุนทางธรรมชาต�?เกิดการพัฒนาศักยภาพผ่านกิจกรรมท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ โด�?“ชุมชนบ้านถ้ำเสื�?�?แก่งกระจาน �?เพชรบุรี�?เป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมา�?ที่ชุมชนมีความเข้มแข็�?มีการพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวโดยชุมช�?(CBT Thailand) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สำคัญ ที่จะเป็นต้นแบ�?และพัฒนาไปสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ย�?ตามเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Criteria หรือ GSTC)

โดยชุมชนบ้านถ้ำเสือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อ�?ได้ร่วมกันพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ย�?ให้มีการปลดปล่อยคาร์บอนอย่างสมดุ�?หรือ “Carbon Neutral Community-Based Tourism” ที่จะผลักดันการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน�?สอดคล้องกับนโยบายการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยภายใต้แนวคิด BCG Model (Bio-Circular-Green Economy Model) ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนบนพื้นฐานการมีส่วนร่ว�?(Co-Creation) และการเป็นเจ้าของร่วมกั�?Co �?Own ของชุมชนบ้านถ้ำเสืออย่างต่อเนื่อ�?/p>
ทั้งนี้อพท.และภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ย�?ด้วยการเข้าไปถ่ายทอดองค์ความรู้ความเข้าใ�?เพื่อพัฒนาเป็น”ชุมชนท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ�?การพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวอย่างครบวงจ�?พร้อมลงมือทำให้เกิดผลอย่างแท้จริ�?ภายใต้กิจกรร�?“ดิน น้�?ป่�?จากภูผ�?สู่มหานที�?นับเป็นต้นแบบของพื้นที่ภาคตะวันต�?ที่ชุมชนได้มีส่วนร่วมการออกแบบพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวและกิจกรร�?โดยที่ชุมชนทุกภาคส่วนในพื้นที่ได้รับประโยชน์จากรายได้เสริมที่มาจากการให้บริการนักท่องเที่ย�?/p>
ชุมชนบ้านถ้ำเสื�?เป็นชุมชนริมแม่น้ำเพชรบุร�?ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาต�?มีจุดเด่นเรื่องการท่องเที่ยวและการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อ�?ได้รับการยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรอินทรีย์ การสร้างเครือข่ายอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่มุ่งสู่การใช้ประโยชน์ผืนป่าเพื่อการกักเก็บคาร์บอน เป็นส่วนหนึ่งการเดินหน้าสู่เข้าสู่สังค�?Net Zero ที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ต้องตระหนักและให้ความสำคัญด้านการพัฒนาเศรษฐกิ�?สังคมและสิ่งแวดล้อ�?ให้มีความยั่งยืน
นาวาอากาศเอก อธิคุณ กล่าวว่า สำหรับ 4 กิจกรรมหลักในเส้นทางการท่องเที่ย�?ที่พร้อมให้บริการนักท่องเที่ย�?เริ่มต้�?จากการเรียนรู้แหล่งสะสมพันธ์ุไม้ในรูปแบ�?“ธนาคารต้นไม้�?ซึ่งจะเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคั�?ในการถ่ายทอดองค์ความรู้การอนุรักษ์ต้นไม้ที่มีคุณค่�?และมีมูลค่�?ทั้งในด้านการดำรงชีวิต และการดูแลสิ่งแวดล้อ�?เพื่อคนในชุมช�?และนักท่องเที่ยวได้สัมผัส ความสำคัญของต้นไม้ได้อย่างแท้จริ�?ซึ่งปัจจุบันชุมชนสามารถยกระดับการปลูกไม้เศรษฐกิ�?เช่�?ไม้สัก ไม้ประดู�?ตะเคียนทอ�?ที่จะมีมูลค่าเป็นหลักประกันในการกู้เงิ�?และยังเป็นมรดกส่งต่อให้ลูกหลานได้ ปัจจุบันชุมชนบ้านถ้ำเสือ��ีต้นไม้ที่ลงทะเบียนอยู่กับธนาคารมากกว่า 20,000 ต้�?และเจ้าของต้นไม้จะได้รับดอกเบี้ย จากต้นไม้ของตนเองด้วยซึ่งได้รับผลตอบแทนแตกต่างตามแต่ละชนิดของต้นไม้

จากนั้นสามารถสัมผัสวิธีการทำอาหารสูตรบ้านถ้ำเสื้อ ที่เปิดให้บริการนักท่องเที่ย�?โดยใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น พัฒนาสู่เมนูของคา�?และของหวาน ในกา�?“แปรรูปขนม ท้องม้วนสูตรเพชรบุร�?เจ้าแรกที่ใช้ตาลตโนด�?ถือเป็นการนำวิถีท้องถิ่น ผสมผสานภูมิปัญญาของชุมชน มานำเสนอผ่านกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ลงมือทำทองม้วนแสนหอมหวาน จากตาลโตนด เป็นไม้พื้นถิ่นที่สร้างชื่อเสียงของจังหวัด ในการทำขนมหวานให้กับเมืองเพช�?จนได้รับการยกย่องขึ้นทะเบียนเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของ องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร�?และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก พร้อมนำสู่กิจกรรมด้านการถนอมอาหา�?โดยนำไข่เป็ดที่ชาวบ้านเพาะเลี้ยงสร้างมูลค่าเพิ่ม ด้วยการนำภูมิปัญญาจากพืชมาสร้างคุณค่าของไข่เป็�?ให้มีรสชาติที่เป็นจุดเด่นและแตกต่างไม่เหมือนใคร เป็น”ไข่เค็มอัญชัน�?/p>
วิธีการทำไข่เค็มอัญชั�?/figcaption>

ส่วนกิจกรรมที่พลาดไม่ได้ ที่นักท่องเที่ยวได้ร่วมอนุรักษ์ฟื้นฟูผืนป่า ด้วยกา�?“ปั้นเมล็ดพันธุ์ เป็นกระสุนยิงด้วยหนังสติ๊�?เพื่อใช้สำหรับการยิงไปยังพื้นที่ป่า�?เพื่อเพิ่มจำนวนต้นไม�?และความชุ่มชื้นให้กับผืนป่�?ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ชนิดพันธุ์พืชท้องถิ่นที่มีคุณค่�?ให้กับชุมชนและสัตว์ป่า ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสกิจกรรมล่องแพยาง ไปกับสายน้ำเพชรบุร�?ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ย�?เพราะเป็นสายน้ำที่มีความแตกต่า�?จากแม่น้ำสายอื่นที่ไหลลงปากอ่าวทางทิศเหนือ ถือได้ว่�?แม่น้ำเพชรบุร�?เป็นแม่น้ำสำคัญทางเศรษฐกิจของเพชรบุร�?/p>
ใช้หนังสติ๊ก ยิงกระสุนเมล็ดพันธุ์ ไปยังพื้นที่ป่�?/figcaption>
จากการได้พัฒนาเป็�?”ชุมชนท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ�?ยังได้ขยายผลโดยการถ่ายทอดองค์ความรู้การให้บริการท่องเที่ยวเพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ตามแนวทา�?BCG Model ตั้งแต่เรื่องการคัดแยกขย�?ทำบ่อดักไขมั�?แนวทางการลดใช้พลังงา�?โดยเน้นใช้พลังงานสะอาดจากพลังงานแสงอาทิตย์ ให้บริการในที่พั�?พร้อมรณรงค์ให้ความรู้กับนักท่องเที่ย�?ในการคัดแยกขยะ เป็นต้น
“ต้นไม้ที่คนในชุมชนบ้านถ้ำเสือช่วยกันดูแลรักษายังนำพาชุมชนเข้าสู่โครงการคาร์บอนเครดิ�?ส่งผลให้ชุมชนได้รับเงินอุดหนุนจากภาครั�?และที่มากกว่านั้�?ชุมชนได้รับความมั่นคงด้านพลังงาน ความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย และความมั่นคงด้านอาหาร สำหรับลูกหลานในอนาคต ความมั่นคงเหล่านี�?ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนและกล้าที่จะก้าวต่อไ�?ใช้ความมั่งคงดังกล่าวเป็นภูมิคุ้มกันรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติของชุมชนเป็นฐานในการพัฒนาไปสู่ความยั่งยืน�?นาวาอากาศเอก อธิคุณ กล่า�?/p>

ด้าน สุเทพ พิมพ์ศิร�?/strong> ประธานคณะกรรมการธนาคารต้นไม้บ้านถ้ำเสื�?/strong> กล่าวว่า จากความสำเร็จในการทำโครงกา�?“ธนาคารต้นไม้�?ทำให้ชุมชนบ้านถ้ำเสือกลายเป็นชุมชนต้นแบบขอ�?ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (�?�?�?) เป็นศูนย์เรียนรู�?และเป็นโรงเรียนธนาคารต้นไม้ มีการเข้ามาศึกษาดูงานจากชุมช�?โรงเรียน สถานศึกษาต่างๆ บริษัท ห้างร้าน ตั้งแต�?ปี 2554 ซึ่งที่ผ่านมาได้รางวัลกินร�?เป็นรางวัลกินรีแรกของ �?เพชรบุร�?และของไทยในด้านธนาคารต้นไม�?ล่าสุดได้รับรางวัลระดับประเทศ ในด้านการท่องเที่ยวชนบทยอดเยี่ย�?และผ่านมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมช�?หรือ CBT Thailand Standard นอกจากนี้ยังเป็นชุมชนแรกในประเทศไท�?ที่มีการทำเรื่องการปลูกต้นไม้และการคำนวณคาร์บอนเครดิตอย่างครบวงจ�?/p>
“ด้วยต้นทุนทางทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ชุมชนได้ออกแบบกิจกรรมเส้นทางการท่องเที่ยวชุมชนเชิงอนุรักษ์ที่สอดคล้องกับบริบทในพื้นที�?เช่�?เรียนรู้ความเป็นมาของ “ธนาคารต้นไม้�?ที่สามารถใช้เป็นเงินออม และเป็นหลักประกันให้กับสถาบันการเงินได้ การทำไข่เค็มดินสอพองใบเตยและดอกอัญชัน ที่จะได้เนื้อไข่ขาวที่ละเอียดไม่หยา�?ไม่เค็มจนเกินไ�?และได้ไข่แดงที่หอมมั�?สูตรเฉพาะของชุมชนบ้านถ้ำเสื�?กิจกรรมเสือคลุกดิน หรือการปั้นกระสุนพันธุ์ไม้เพื่อนำมายิงด้วยหนังสติ๊ก คืนป่าสร้างปอดให้กับชุมช�?การล่องแพยางในแม่น้ำเพชรบุร�?ไฮไลท์ของบ้านถ้ำเสือคือการทำทองม้วนกรอบ หอ�?มั�?อร่อ�?เป็นสินค้าส่งออกของหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อของชุมชน�?สุเทพ กล่า�?/p>
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการทำปุ๋ยเบญจคุณ การทำน้ำกลั่นสมุนไพรไล่แมลงจากสมุนไพรท้องถิ่�?การเผาถ่านคุณภาพสูงด้วยเตาอิวาเตะ และกิจกรรมชมสวนผลไม้ผสมผสานไร้สารเคม�?โดยในชุมชนแห่งนี้ยังมีต้นยางนาอายุกว่า 100 ปี ที่ยังคงยืนต้น ให้นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติเข้าไปสัมผั�?การพัฒนาพื้นที่บริการลานกางเต็นท์ของชุมชนให้เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการพักแรมในพื้นที่ธรรมชาติอีกด้วย
The post “อพท�?พาชมวิถี “บ้านถ้ำเสือ�?ชุมชนท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำต้นแบ�?BCG ชูไฮไลท์กิจกรรมเพิ่มผืนป่าแหล่งเรียนรู�?”ธนาคารต้นไม้�?สู่ความยั่งยืน first appeared on Green Network.

Green Travel | Green Network

Green Network — Tue, 01 Jun 2021 04:42:42 +0000

อพ�? ผนึก 7 องค์กร ขับเคลื่อนแผนพัฒนาโครา�?ระยะ 5 ปี แหล่งโบราณคดีทางธรณีวิทย�?ดึงชุมชนร่วมพัฒนากิจกรรมวางเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยง เสริมศักยภาพความยั่งยืนเข้าเกณฑ์ยูเนสโก ตามยุทธศาสตร์จังหวัด สร้างแลนด์มาร์คดินแดนแห่�?3 มงกุฎมรดกโลก บูมแหล่งท่องเที่ยวกระจายรายได้สู่ชุมชนแบบยั่งยื�?/strong>

นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยื�?(องค์การมหาชน) หรือ อพ�? เปิดเผยว่�?ได้ร่วมลงนามความร่วมมื�?(MOU) กับอีก 7 หน่วยงาน ได้แก่ จังหวัดนครราชสีม�?องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนาร�?มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุลมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และสมาคมโคราชจีโอพาร์คและฟอสซิ�?เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานของอุทยานธรณีโคราช หรือโคราชจีโอพาร์ค สู่การเป็นอุทยานธรณีโลก ตามเกณฑ์ขององค์การเพื่��การศึกษา วิทยาศาสตร�?และวัฒนธรรมแห่งสหป��ะชาชาติ หรือ ยูเนสโก เพื่อผลักดันให้จังหวัดนครราชสีมาบรรลุเป้าหมายการเป็นดินแดนแห่�?3 มงกุฎของยูเนสโก หรือ “The UNESCO Triple Crown�?โดยจะดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดนครราชสีมา ที่จะทำให้ โคราชจีโอพาร์ค ซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีทางธรณีวิทยาระดับโลก

“ที่ผ่านมายูเนสโกได้ให้การรับรองแล้�?2 พื้นที�?ได้แก่ พื้นที่มรดกโลกกลุ่มป่าดงพญาเย็�?เขาใหญ่ และพื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราช อำเภอวังน้ำเขียว และที่จะผลักดันต่อไปก็คืออุทยานธรณีโคราช ตามการดำเนินงาน 3 โปรแกรมของยูเนสโกเพื่อก้าวสู่ดินแดนแห่�?3 มงกุฎของยูเนสโก จึงมอบให้สำนักงานพื้นที่พิเศษ 2 หรือ อพ�? 2 ซึ่งดูแลและพัฒนาพื้นที่อารยธรรมอีสานใต�?กั�?จังหวัดนครราชสีม�?อพ�? ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายแบบบูรณาการพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวและเส้นทางการท่องเที่ย�?เพื่อขับเคลื่อนอุทยานธรณีโคราชไปสู่การสร้างคุณค่าระดับโลก ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชุมชนมีส่วนร่ว�?เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวหลักแบบยั่งยืนที่เป็นศูนย์กลางที่จะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวทุกระดับในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยและนานาชาติได้อย่างเป็นรูปธรรม�?ผู้อำนวยกา�?อพ�? กล่า�?/p>
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2564 อพ�?2 จะเข้าไปต่อยอดการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมช�?ในพื้นที่ชุมชนท่าช้า�?อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และชุมชนมะค่�?อำเภอเมืองนครราชสีมา โดยจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค�?และกิจกรรมด้านต่างๆให้เป็นโปรแกรมการท่องเที่ยวที่สามารถเชื่อมโยงระหว่างชุมชนท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยวหลั�?นอกจากนั้นยังจัดทำป้ายสื่อความหมาย
จุดถ่ายภาพในแหล่งท่องเที่ยวของชุมช�?การพัฒนาสื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของชุมช�?โดยยังคงรักษาอัตลักษณ์และมรดกทางภูมิปัญญ�?วัฒนธรรมที่สามารถร้อยเรียงเป็นจุดขายที่สำคัญของชุมช�?/p>
ในปี 2563 อพ�? ได้นำองค์ความรู้ด้านการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยื�?โดยใช้การท่องเที่ยวโดยชุมชนเป็นเครื่องมือสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนที่อยู่ในเส้นทางโคราชจีโอพาร์ค จัดทำแผนการบริหารจัดการและการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมช�?การพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค�?โดยมีการประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีม�?หน่วยงานในพื้นที่และอุทยานธรณีโครา�?เพื่อให้การพัฒนาเป็นไปในแนวทางที่สอดคล้องกับแนวทางโคราชจีโอพาร์�?/p>
กรอบความร่วมมือครั้งนี�?จะดำเนินการในระยะ 5 ปี โดยมีขอบเขตใน 5 ด้านที่สำคัญ คื�?1.ร่วมกันอนุรักษ�?ศึกษ�?สำรวจแหล่งทรัพยากรธรณีธรรมชาติ สิ่งแวดล้อ�?และวัฒนธรร�?2.ร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนการจัดทำแผนการพัฒนาและการดำเนินการให้อุทยานธรณีโคราชเป็นอุทยา�?ธรณีโล�?และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์โดยการมีส่วนร่วมของชุมช�?และหน่วยงานในท้องถิ่�?3.ร่วมกันจัดกิจกรร�?และการเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักวิจั�?นักวิชาการ นักศึกษา นักเรียน ประชาชนทั่วไ�?รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เข้ามาศึกษาธรรมชาติภายในอุทยานธรณีโคราช 4.ร่วมกันจัดกิจกรรมพัฒนาเศรษฐกิจด้านการตลาด
การพัฒนาผลิตภัณฑ�?เทคโนโลยี รวมถึงการบริหารเส้นทางการท่องเที่ยวที่จะเชื่อมโยงกับชุมชน และจัดทำข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อการประชาสัมพันธ์ให้เกิดการรับรู้และเข้าถึงพื้นที่อุทยานธรณีดังกล่าวในวงกว้างด้วยเช่นกัน 5.ร่วมกันพัฒนาการท่องเที่ยวในอุทยานธรณีโคราชให้เป็นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโดยให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวโดยชุมช�?/p>
สำหรับความโดดเด่นของ จีโอพาร์�?โครา�?/strong> คื�?เป็นแหล่งโบราณคดีทาง��รณีวิทยา เพราะค้นพบแหล่งฟอสซิลขนาดใหญ่ ไม่ว่าช้างดึกดำบรรพ์ หนูโบราณ จระเข้โบรา�?ไดโนเสาร์และไม้กลายเป็นหิน

ดังนั้นการผลักดันตามยุทธศาสตร์จังหวัดครั้งนี�?มีเป้าหมายสำคัญคื�?การนำพื้นที่ดังกล่าวให้สามารถขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งของยูเนสโก ผลสำเร็จขอ��การดำเนินการจะนำไปสู่การสร้างการรับรู้และยกระดับความพร้อมของจังหวันครราชสีมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับนานาชาติต่อไ�?/strong>
The post อพ�? ร่วมพัฒนาโคราชจีโอพาร์คขึ้นทะเบียน “ยูเนสโก�?สร��างกิจกรรม-วางเส้นทางท่องเที่ยวโดยชุมชนเชื่อมมรดกโลก first appeared on Green Network.

Green Travel | Green Network

Green Network — Tue, 11 May 2021 08:20:19 +0000

อพ�?ร่วมกับจังหวัดสุโขทั�?ประกาศศักยภาพเมือง ส่งข้อมูลเข้าชิงเครือข่ายเมืองแห่งการเรียนรู�?องค์การยูเนสโก หรือ GNLC ตอกย้ำความสำเร็จของการพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน สู่เมืองท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโดยแท้จริ�?หวังประโยชน์สำคัญต่อการสร้างการรับรู้ให้นักท่องเที่ยวและนักเดินทางจากทั่วโลกปักหมุดเป็นเป้าหมายของการเดินทาง

นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยกา�?องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยื�?(องค์การมหาชน) หรือ อพ�? ภายใต้นโยบายและการกำกับดูแลของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่�?ได้มอบให้สำนักงานพื้นที่พิเศษ 4 (อพ�?4) จังหวัดสุโขทัย ให้ความร่วมมือกับทางจังหวัดสุโขทัยผลักดั�?“สุโขทัย�?เข้าเป็นสมาชิก��ครือข่ายเมืองแห่งการเรียนรู�?องค์การยูเนสโก ( UNESCO Global Network of Learning Cities : GNLC ) ประจำป�?2564 ซึ่งล่าสุดได้รับรายงานว่�?อพ�? 4 ได้รับมอบหมายจากทางจังหวัด ให้เป็นผู้ดำเนินการจัดทำใบสมัครโดยร่วมกับมหาวิทยาลัยนเรศวร และนำส่งต่อคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร�?และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ กระทรวงศึกษาธิการและ UNESCO เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการประกาศผลผู้ได้รับการคัดเลือกในเดือนมิถุนายน 2564

“ขณะนี้เอกสารการสมัครที่นำส่งไปแล้วนั้�?ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการ เพื่อคัดเลือกเป็นตัวแทนของประเทศไทยไม่เกิ�?3 เมือง เพื่อส่งให้ยูเนสโกเป็นผู้ตัดสิน หากเมืองสุโขทัยได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองแห่งการเรียนรู�?หรือ GNLC จะนับเป็นเมืองที�?2 ของประเทศไท�?โดยเมืองแรกที่ยูเนสโกคัดเลือกและประกาศผลไปแล้วเมื่อปี 2562 คื�?เทศบาลนครเชียงรา�?หากสุโขทัยได้รับเลือกเป็�?GNLC เท่ากับตอกย้ำความสำเร็จของ อพ�? ที่สามารถยกระดับเมืองและพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขันของพื้นที่ให้เกิดความยั่งยืนได้เป็นผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรม�?/p>

ทั้งนี�?อพ�? ได้มองเห็นศักยภาพของเมืองสุโขทั�?ที่จะสามารถเข้าชิง GNLC ได�?เนื่องจากเป็นเมืองที่มีความเข้มแข็งทางด้านศิลปะและหัตถกรรม ที่มีการสืบสานจากรุ่นสู่รุ่น ประชาชนและชุมชนในเมืองแห่งนี้ก็ได้ใช้วิชาความรู้ที่สืบทอดต่อกันมาในการประกอบอาชี�?/p>

ซึ่งการได้เข้าสู่การเป็นสมาชิกGNLC นอกจากช่วยให้เกิดการรับรู้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มสมาชิ�?GNLC ซึ่งปัจจุบันมีจำนว�?224 เมือง ใน 52 ประเทศ กระจายอยู่ทั่วโล�?เกิดการเดินทางศึกษาเรียนรู้ระหว่างกันในกลุ่มสมาชิก และยังช่วยสร้างความสนใจให้เกิดขึ้นในกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภา�?ที่ต้องการเดินทางเพื่อศึกษาเรียนรู�?อีกทั้งยังเป็นการต่อยอดและตอกย้ำการรับรู้ในภาพลักษณ์และชื่อเสียงของเมืองสุโขทัยที่เคยได้รับเลือกเป็�?เมืองมรดกโล�?(�?�? 2534) มรดกความทรงจำแห่งโลก
(�?�? 2546) และเมืองสร้างสรรค์ (�?�? 2562) อันจะนำมาซึ่งการยกระดับและเพิ่มมูลค่าเชิงพื้นที่ทั่วจังหวัดสุโขทัย เกิดรายได้จากการเดินทางท่องเที่ยวเข้าสู่จังหวัดและเข้าสู่ประเทศไท�?/p>

“เมืองแห่งการเรียนรู้จะได้รับการจัดระบบการเรียนรู้ให้กับคนในเมืองทุกเพศ วั�?สถาน�?อาชี�?เพื่อให้คนในเมืองมีการเรียนรู้ตลอดชีพและทั่วถึง นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิต และนำไปสู่เมืองที่น่าอยู่และยั่งยืน และคุณสมบัติของเมืองที่จะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้คือ มีการส่งเสริมให้เกิดเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ประชาชนจะมีอำนาจในการตัดสินใจและการรวมกลุ่มทางสังคม การพัฒนาเศรษฐกิจและความรุ่งเรืองทางวัฒนธรร�?การพัฒนาที่ยั่งยืน เกิดการส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานถึงระดับอุดมศึกษา ส่งเสริมการเรียนรู้ในครอบครัวและชุมช�?มีการอำนวยความสะดวกเพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ�?/p>

อย่างไรก็ตาม หากสุโขทัยได้รับเลือกเป็นเครือข่าย GNLC สิ่งที่จะได้รับจากยูเนสโกในการเป็นสมาชิกครั้งนี้คือ 1. ได้รับการสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อสร้างเมืองแห่งการเรียนรู�?เช่�?ได้เข้าถึงเครื่องมือและกลยุทธ์ในการพัฒนาเมือง ได้รับข้อมูลเชิงลึกในการดำเนินงานจากรายงานการวิจัยต่างๆ ได้รับข้อมูลข่าวสารจากเมืองแห่งการเรียรู้ทั่วโล�?2. ได้เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายที่เข้มแข็�?ได้สร้างหุ้นส่วนเครือข่ายความร่วมมื�?เช่�?ได้ติดต่อกับประเทศสมาชิก ได้สื่อสารกับเครือข่ายของผู้เชี่ยวชาญ ได้รับการสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมนานาชาติระดับภูมิภาค ได้รับการสนับสนุนด้านวิชาการจากสมาชิ�?GNLC แล�?3. ได้รับการยอมรับในความพยายามและการดำเนินงานของเมือง เช่�?ได้ร่วมแบ่งปันเป้าหมา�?ความคืบหน้�?ผ่านช่องทางการสื่อสารของ UNESCO GNLC ได้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้เมืองกรณีศึกษ�?และยังได้รับสิทธิ์สมัครเข้ารับรางวัลเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโก้อีกด้วย
The post อพ�? จับมือจังห��ั�?ส่�?“สุโขทัย�?ชิงเครือข่ายเมืองแห่งการเรียนรู้โลก first appeared on Green Network.

Green Travel | Green Network

Green Network — Thu, 03 Dec 2020 08:48:23 +0000

พิพัฒน�?รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ได้นำกลุ่มชาวต่างชาติที่ประกอบอาชีพและพำนักในราชอาณาจักรไท�?(Expatrialtes) ลงพื้นที่คลองดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี และสนับสนุ�?�?strong>การท่องเที่ยวสีขาว�?เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มธุรกิจบริการทั้งผู้ประกอบการและสถานประกอบการให้มีความเข้มแข็�?และรองรับนักท่องเที่ยวหลังสถานการณ์ COVID-19 ภายใต้วิถีปกติใหม่ (New Normal) ให้มีความสะอาด ปลอดภั�?และเป็นธรร�?เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาต�?รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่การท่องเที่ยวของประเทศไท�?ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภา�?ให้กลุ่มชาวต่างชาติได้ลองเข้าร่วมกิจกรรมแนวใหม�?ในพื้นที่จังหวัดราชบุร�?เพื่อให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นกระบอกเสียงในการสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไท�?หลังสถานการณ�?COVID-19 คลี่คลาย

โด�?strong>องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยื�?(องค์การมหาชน) หรือ อพ�? ได้ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย บูรณาการในการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวต้นแบ�?“วิถีคลอ�?วิถีไท�?ตามรอยเสด็จคลองดำเนิน�?ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวต้นแบบที่เน้นวิถีคลอ�?วิถีเกษตร และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่สร้างคุณค่าให้กับแหล่งท่องเที่ยวจากอัตลักษณ์ของชุมชนการพัฒนาและเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ย�?ตลอดจนการสร้างนักสื่อความหมายและพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวต้นแบบให้พร้อมสำหรับการให้บริการการท่องเที่ย�?/p>

ทั้งนี้เส้นทางท่องเที่ยวต้นแบ�?“วิถีคลอง วิถีไท�?ตามรอยเสด็จคลองดำเนิ�?/strong>” ประกอบด้วยแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรสำคั�?4 แหล่�?ได้แก่ วัดโชติทายการา�?บ้านมหาดเล็กเจ๊กฮวด ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลั�?สวนเกษตรแม่ทองหยิบ

ดร.ชุมพ�?มุสิกานนท์ รองผู้อำนวยการ อพ�? กล่าวว่า การดำเนินการพัฒน�?เส้นทางท่องเที่ยวต้นแบ�?“วิถีคลอง วิถีไท�?ตามรอยเสด็จคลองดำเนิ�?/strong>” อย่างต่อเนื่องของ อพ�? ภายใต้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อ�?ในระยะเวล�?2 ปี มีกิจกรรมต่างๆ ที่สร้างความเข็มแข็งของกลไกการบริหารจัดกา�?การพัฒนาศักยภาพชุมชนและยกระดับกิจกรรมและเส้นทางการท่องเที่ย�?ต่อยอดสู่การประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการตลา�?ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับชุมช�?และคนในพื้นที่ในการใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนต่อไป
The post รม�?ท่องเที่ยวชูการท่องเที่ยวสีขาว “วิถีคลอ�?วิถีไท�?ตามรอยเสด็จคลองดำเนิน�?กระตุ้นท่องเที่ยวราชบุรี first appeared on Green Network.

Green Network — Fri, 13 Nov 2020 09:42:39 +0000

แนวทางการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวสู่ความยั่งยื�?คำพูดที่ดูเหมือนเป็นนามธรรม ตัวชี้วัดอะไรถึงจะเรียกว่าความยั่งยืนที่สำเร็จแล้�?ดังนั้นการทำสิ่งที่เป็นนามธรรมให้เป็นรูปธรรม จำเป็นต้องมีตัวชี้วัดเป็นหมุดหมายของการดำเนินงานที่ชัดเจนในแต่ละช่วงเวล�?เสมือนเป็นขั้นบันไดของความสำเร็จในแต่ละขั้นตอ�?และส่วนหนึ่งเพื่อเป็นกำลังใจให้กับคนทำงา�?และอีกส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการตรวจสอบระหว่างทางก่อนถึงเป้าหมา�?ให้มั่นใจว่าเดินมาถูกทา�?ดังกรณีศึกษาเมืองเก่าน่า�?1 ใน 6 พื้นที่พิเศษขอ�?อพ�? ที่วันนี้กำลังมุ่งสู่การเป็นจุดหมายปลายทา�?(Distination)แห่งความยั่งยืนในระดับโล�?ด้วยการเตรียมความพร้อมยกระดับเมืองเข้าสู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขอ�?UNESCO ในปี�?�? 2564

ดร.ชูวิทย�?มิตรชอ�?/strong> รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยื�?/strong> (องค์การมหาชน) หรือ อพ�? กล่าวว่า จากที่คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2555 เห็นชอบประกาศน่านเป็นพื้นที่พิเศษ ครอบคลุม 5 ตำบล รวมพื้นที่ 138.37 ตารางกิโลเมต�?ประกอบด้วย เขตอำเภอเมือง ตำบลในเวียง ตำบลดู่ใต้ ตำบลนาซา�?ตำบลบ่อสวก เขตอำเภอภูเพียง ตำบลม่วงตึ๊ด รวมกันเป็นพื้นที่พิเศษเมืองเก่าน่า�?ด้วยแนวคิดของยุทธศาสตร์การพัฒน�?“น่า�?เมืองเก่าที่มีชีวิต�?ซึ่งมีจุดเด่นของพื้นที่น่านที่ความเข้มแข็งของวิถีชีวิ�?วัฒนธรรม และโบราณสถานที่ยังตกทอดจากอดีตจนถึงปัจจุบั�?ผู้คนในพื้นที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมและประเพณีที่ดีงามไว้ได้อย่างสมบูรณ�?/p>
ดร.ชูวิทย�?มิตรชอ�?/figcaption>

GSTC รหัสของความยั่งยืน

การพัฒนาเมืองเก่าน่า�?/strong> โดยหลักการ อพ�? ใช้รูปแบบคล้ายกันกับพื้นที่อื่นๆ คื�?ใช้เครื่องมือที่เรียกว่�?Global Sustainable Tourism Criteria (GSTC) ซึ่งเป็นเกณฑ์ของสภาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Council) มีทั้งหม�?4 มิติ ได้แก่ 1.การบริหารจัดกา�?ซึ่งรวมถึงเรื่องความปลอดภัยนักท่องเที่ย�?2.สังคมเศรษฐกิ�?3.วัฒนธรรม แล�?.สิ่งแวดล้อ�?โดยอพท. จะนำเกณฑ์ 4 มิติ ซึ่งมีทั้งหม�?41 ข้�?105 ตัวชี้วั�?ไปทาบกับทุกพื้นที่ที่เราลงไปทำงา�?เพื่อจะได้ทราบว่าควรต้องทำอะไรบ้า�?/p>
“โดย GSTC เป็นเกณฑ์ที่มีความเป็นสาก�?มีข้อดีคือเป็นเกณฑ์ที่กำหนดเป้าหมายไว้กว้างๆ ทำให้สามารถปรับใช้ได้กับทุกพื้นที่และทุกชุมชนของประเทศไทยโดยดูจากความพร้อมของพื้นที่เป็นหลัก�?ดร.ชูวิทย�?/strong> กล่า�?/p>
ในส่วนของการยกมาตรฐานชุมชน อพ�? มีเกณฑ์การท่องเที่ยวโดยชุมช�?หรือ CBT Thailand โดยใช้หลักการมีส่วนร่วมหรื�?Co-creation ให้ทุกคนได้ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมปฏิบัต�?ร่วมรับผิดชอ�?และร่วมรับผลประโยชน์ ภายใต้ความร่วมมือนี้จะดำเนินการโดยการจัดตั้งชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมช�?เพื่อเป็นศูนย์รวมความแต่ละความรู้ความสามารถที่จะมาประกอบกับเป็นการบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่เรื่อ�?อาหา�?ที่พัก กิจกรรมการท่องเที่ย�?นักสื่อความหมา�?สินค้าของที่ระลึ�?โดยชมรมจะทำงานร่วมกั�?อพ�? และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละเรื่องที่กำหนดขึ้นม�?ได้แก่ กรมการท่องเที่ย�?การท่องเที่ยวแห่งประเทศไท�?สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ กรมการพัฒนาชุมชน กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่�?กรมอนามั�?กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อ�?สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไท�?สมาคมท่องเที่ย�?สถาบันการศึกษาทั้งส่วนกลางและท้องถิ่�?และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่�?เป็นต้น เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลทางด้านวิถีชีวิต อัตลักษณ�?วัฒนธรรมประเพณ�?และพัฒนาให้เป็นจุดขายทางการท่องเที่ย�?โดยให้ชุมชนเป็นผู้ขับเคลื่อนและบริหารจัดการกันเองภายใต้หลักการทำงานที�?อพ�? วางไว้
“อพท. ใช้หลักการพัฒนาตามแนวทางเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก หรือ GSTC ผนวกกับองค์ความรู้ขอ�?อพ�? ตามเกณฑ์การท่องเที่ยวโดยชุมชนหรื�?CBT Thailand มาพัฒนาให้กับท้องถิ่นและชุมชนเพื่อยกระดับการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนภายใต้มาตรฐานเดียวกัน�?ดร.ชูวิทย�?/strong> กล่า�?/p>
เมื่อการดำเนินงานพัฒนาการท่องเที่ยวให้เกิดความยั่งยืน ถึงจุดหนึ่งต้องมีเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ถือเป็นควา�?br /> สำเร็จในแต่ละขั้นตอ�?อพ�? จึงเริ่มส่งชุมชนที่ได้พัฒนามีมาตรฐาน นำส่งเข้าประกว�?ตั้งแต่ระดับประเทศ รับดับภูมิภา�?และระดับโล�?/p>

จากระดับประเทศสู่เป้าหมายระดับโล�?/h3>
ในส่วนของพื้นที่พิเศษเมืองเก่าน่า�?จึงมาลงตัวที่เป้าหมายการดำเนินงาน และเมื่อพัฒนาขึ้นมาได้ระดับหนึ่ง อพ�? นำชุมชนเข้าสู่เวทีการประกวด โดยในปีพ.�? 2560 ชุมชนตำบลบ่อสว�?จังหวัดน่า�?รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) หรือรางวัลกินร�?ระดับดีเด่นประเภทแหล่งท่องเที่ยวชุมชนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไท�?ถือเป็นสิ่งยืนยันความสำเร็�?นำความภาคภูมิใจให้กับคนในชุมชน และชาวเมืองน่าน ซึ่งรางวัลนี้เป็นเครื่องการันตีให้กับการทำการตลาดให้กับชุมชนบ่อสวกอีกมากมา�?/p>
ต่อมาในปีพ.�? 2563 ตำบลในเวียง ยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก ประจำป�?2020 หรือ TOP 100 2020 นอกจากนั้น อพ�? ยังนำส่งผลสำเร็จของการพัฒนาอี�?2 กลุ่มที่เป็นพลังขับเคลื่อนให้กับการท่องเที่ยวในเมืองน่านและแบรนด์น่านเน้อเจ้าจนได้รับรางวัลจากสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิ�?(PATA) เป็นรางวั�?PATA Gold Awards 2020 ประเภทรางวัล Women Empowerment Initiative และรางวั�?PATA Gold Awards 2020 ประเภทรางวัล Youth Empowerment Initiative DASTA NAN Youth Club ซึ่งเป็นรางวัลจากความเข้มแข็งของกลุ่มเยาวชนที่เป็นกำลังในการสืบสานภูมิปัญญาและวัฒนธรร�?หากเขาได้เรียนรู้และเข้าใจอย่างลึกซึ้�?/p> ความสำเร็จที่เกิดขึ้�?อพ�? เป็นผู้ประสานและอำนวยความสะดวกให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มาร่วมมือกันทำงานในหน้าที่ของตัวเองอย่างเข้มแข็งภายใต้เป้าหมายเดียวกั�?โดยมีทั้งชุมชน หน่วยงานท้องถิ่น อพ�? 6 หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อ�?ในการสร้างสรรค์ผ่านการพัฒนาสิ่งแวดล้อมโครงสร้างทางสังคมและต้นทุนทางวัฒนธรร�?ประวัติศาสตร�?ขนบธรรมเนียม ตลอดจนจารีตประเพณีท้องถิ่�?มาผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชนและเกิดเส้นทางท่องเที่ยวโดยชุมชนทำให้
ในปี�?�? 2564 อพ�? อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมให้กับจังหวัดน่า�?เพื่อเข้าสู่การประเมินเข้าเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ (UCCN ) ขององค์การเพื่อการศึกษาวิทยาศาสตร�?และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน และนี่คือเป้าหมายสูงสุดของความสำเร็จของการพัฒนาความยั่งยืนให้กับพื้นที่หรือเมืองเล็กๆ อย่างจังหวัดน่านแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมและวิถีชีวิ�?ได้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน และทำการตลาดได้บนมาตรฐานการบริหารจัดการที่หน่วยงานระดับโลกให้การยอมรับ
The post อพ�?ชูกรณีศึกษ�?“เมืองเก่าน่าน�?สร้างความยั่งยืนที่จับต้องได�?พร้อมยกระดับเมืองผงาดในเวทีระดับโล�?/a> first appeared on Green Network.